top of page

Personalized Marketing: ความหมาย ประโยชน์ และโอกาสของธุรกิจ


Personalized Marketing

Personalized Marketing เป็นกลยุทธ์การตลาดที่ใช้ข้อมูลและเทคโนโลยีเพื่อสร้างประสบการณ์การติดต่อกับลูกค้าที่เป็นพิเศษและเหมาะสมกับแต่ละบุคคล โดยการนำข้อมูลส่วนตัวของลูกค้ามาวิเคราะห์และใช้ในการสร้างเนื้อหาและข้อความที่เป็นประโยชน์แก่ลูกค้าแต่ละคน ซึ่งเป้าหมายของ Personalized Marketing คือการสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งขึ้นกับลูกค้า และเพิ่มโอกาสในการแปลงลูกค้าใหม่เป็นลูกค้าที่ซื้อสินค้าหรือบริการอย่างต่อเนื่อง


ขั้นตอนในการทำ Personalized Marketing ประกอบด้วย:

  1. การเก็บรวบรวมข้อมูลลูกค้า: การทำ Personalized Marketing ต้องเริ่มต้นด้วยการเก็บรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า เช่น ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ อายุ ที่อยู่ และข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการซื้อสินค้าหรือบริการ เช่น ประวัติการซื้อ ความสนใจ และความต้องการ

  2. การวิเคราะห์ข้อมูล: ข้อมูลที่เก็บรวบรวมจะถูกนำมาวิเคราะห์เพื่อให้เข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้า การวิเคราะห์ข้อมูลเป็นขั้นตอนที่สำคัญในการกำหนดแนวทางและกลยุทธ์ในการสร้างประสบการณ์การติดต่อที่เหมาะสม

  3. การสร้างเนื้อหาและข้อความที่กำหนดเอง: ข้อมูลที่ได้รับจากการวิเคราะห์จะถูกนำมาใช้ในการสร้างเนื้อหาและข้อความที่เป็นประโยชน์แก่ลูกค้า โดยการปรับแต่งเนื้อหาให้ตรงกับความต้องการและความสนใจของลูกค้า

  4. การส่งเสริมสร้างและการติดต่อ: เนื้อหาและข้อความที่ถูกสร้างขึ้นจะถูกนำมาใช้ในการส่งเสริมสร้างและการติดต่อกับลูกค้า โดยการส่งข้อความที่มีคุณค่าและตรงกับความต้องการของลูกค้า


Personalized Marketing

การทำ Personalized Marketing มีประโยชน์ในหลายด้าน ได้แก่:

  • เพิ่มโอกาสในการแปลงลูกค้าเดิมเป็นลูกค้าที่ซื้อสินค้าหรือบริการอย่างต่อเนื่อง

  • สร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับลูกค้า

  • ช่วยเพิ่มยอดขายและกำไรขององค์กร

  • ลดค่าใช้จ่ายในการตลาด ด้วยการเน้นการติดต่อกับลูกค้าที่เป้าหมาย

ในทางกลับกัน ข้อจำกัดของ Personalized Marketing อาจประกอบด้วย:

  • การเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อนและต้องใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย อาจทำให้ต้องลงทุนเพิ่มเติมในการพัฒนาระบบข้อมูล

  • ความเปลี่ยนแปลงของความต้องการของลูกค้า ทำให้เนื้อหาและข้อความต้องปรับปรุงอยู่เสมอ

  • การใช้ข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าต้องปฏิบัติตามนโยบายความเป็นส่วนตัวขององค์กรและระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง หากไม่ปฏิบัติตามอาจเกิดความไม่พอใจและก่อให้เกิดปัญหากฎหมาย

  • การทำ Personalized Marketing อาจไม่เหมาะสมกับธุรกิจหนึ่ง ๆ หากกลุ่มเป้าหมายมีขนาดเล็กหรือข้อมูลที่มีไม่เพียงพอ


Personalized Marketing

ทำไมลูกค้าถึงชอบ Personalized Marketing ?

ด้วย Personalized Marketing ลูกค้าจะได้รับประสบการณ์การติดต่อที่เหมาะสมและตรงกับความต้องการของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมสร้างผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เป็นประโยชน์ต่อลูกค้า หรือการให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์แก่ลูกค้า ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้ลูกค้ารู้สึกมีค่าและมีความสำคัญกับองค์กร


การทำ Personalized Marketing ยังช่วยเพิ่มโอกาสในการแปลงลูกค้าเดิมเป็นลูกค้าที่ซื้อสินค้าหรือบริการอย่างต่อเนื่อง ลูกค้าที่รู้สึกพอใจและพึงพอใจกับประสบการณ์การติดต่อกับองค์กรจะมีแนวโน้มที่จะเลือกซื้อสินค้าหรือบริการจากองค์กรนั้นอีกครั้ง

นอกจากนี้ การใช้ Personalized Marketing ยังช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับลูกค้า ลูกค้าที่รู้สึกถูกใส่ใจและเป็นสิ่งที่อยากได้จากองค์กรจะมีแนวโน้มที่จะกลับมาซื้อสินค้าหรือบริการอีกครั้ง และอาจกลายเป็นลูกค้าที่กลุ่มที่เสียใจหากไม่ได้ซื้อสินค้าหรือบริการจากองค์กรในครั้งถัดไป


เทคโนโลยีที่ถูกใช้ในการทำ Personalized Marketing

เทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลัง Personalized Marketing เป็นเครื่องมือและเทคนิคต่าง ๆ ที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลของลูกค้า วิเคราะห์ข้อมูลนั้น และนำข้อมูลมาใช้ในการสร้างประสบการณ์การติดต่อที่เป็นประโยชน์และเหมาะสมสำหรับลูกค้าแต่ละคน นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีที่ช่วยให้การประยุกต์ใช้ Personalized Marketing เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย

  1. Customer Relationship Management (CRM): เป็นระบบที่ช่วยเก็บรวบรวมข้อมูลลูกค้าและประวัติการติดต่อของลูกค้า ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลเกี่ยวกับชื่อลูกค้า ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล และข้อมูลที่เกี่ยวข้องที่สำคัญ ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้องค์กรสามารถติดตามและเข้าใจลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น และใช้ในการสร้างประสบการณ์การติดต่อที่เหมาะสมสำหรับลูกค้าแต่ละคน

  2. Data Analytics: เป็นกระบวนการวิเคราะห์ข้อมูลที่เก็บรวบรวมจากลูกค้า ซึ่งช่วยให้องค์กรเข้าใจลักษณะพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น จากนั้นจึงสามารถนำข้อมูลนี้มาวิเคราะห์และปรับปรุงกลยุทธ์การตลาดให้เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าแต่ละกลุ่ม และสร้างประสบการณ์การติดต่อที่เป็นประโยชน์และน่าสนใจสำหรับลูกค้า

  3. Machine Learning: เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถเรียนรู้และปรับปรุงการทำงานของตัวเองได้ ในกรณีของ Personalized Marketing การใช้ Machine Learning ช่วยให้องค์กรสามารถวิเคราะห์และระบุความต้องการของลูกค้าอย่างถูกต้องและรวดเร็ว จากนั้นสามารถนำข้อมูลที่ได้มาใช้ในการสร้างประสบการณ์การติดต่อที่เหมาะสมสำหรับลูกค้า

  4. Marketing Automation: เป็นระบบที่ช่วยอัตโนมัติในการทำงานด้านการตลาด ซึ่งช่วยลดเวลาและความยุ่งยากในการดำเนินการต่าง ๆ เช่น การส่งอีเมลตามลำดับเวลา การตอบกลับอัตโนมัติตามคำถามของลูกค้า การตรวจสอบความสะอาดของรายชื่อลูกค้า และการสร้างรายงานการตลาดอัตโนมัติ การใช้ Marketing Automation ช่วยให้การสร้างประสบการณ์การติดต่อที่เป็นประโยชน์และเหมาะสมสำหรับลูกค้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

เทคโนโลยีเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนและประยุกต์ใช้ Personalized Marketing ให้เกิดผลลัพธ์ที่ดี โดยช่วยให้องค์กรสามารถเก็บรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าอย่างถูกต้องและเหมาะสม และนำข้อมูลเหล่านี้มาสร้างประสบการณ์การติดต่อที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์สำหรับลูกค้าแต่ละคน


ตัวอย่างการทำ Personalized Marketing

  1. อีเมลแบบส่วนตัว (Personalized Email): บริษัท XYZ ที่ขายสินค้าออนไลน์ใช้การส่งอีเมลแบบส่วนตัวให้กับลูกค้า โดยใช้ข้อมูลที่ได้รับจากลูกค้าในการกำหนดเนื้อหาอีเมล ตัวอย่างเช่น การกำหนดชื่อลูกค้าในอีเมล ให้ลูกค้ารับข้อเสนอส่วนตัวตามความสนใจหรือประวัติการซื้อของลูกค้าที่ผ่านมา ทำให้อีเมลมีความเป็นส่วนตัวและน่าสนใจมากขึ้น

  2. เว็บไซต์ที่ปรับแต่งสำหรับลูกค้า (Personalized Website): บริษัท ABC ที่ขายเสื้อผ้าใช้เทคนิค Personalized Marketing ในการปรับแต่งเว็บไซต์ให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าแต่ละคน โดยใช้ข้อมูลที่ได้รับจากลูกค้า เช่น ประวัติการเข้าชมสินค้า ความสนใจในหมวดสินค้าต่าง ๆ และพฤติกรรมการซื้อของลูกค้า ซึ่งทำให้เว็บไซต์มีลักษณะการแสดงผลที่น่าสนใจและเกี่ยวข้องกับความต้องการของลูกค้าแต่ละคน

  3. โฆษณาที่ปรับแต่ง (Personalized Advertising): บริษัท XYZ ที่ดำเนินธุรกิจท่องเที่ยวใช้การโฆษณาที่ปรับแต่งให้กับลูกค้า โดยใช้ข้อมูลการค้นหา ประวัติการเข้าชมเว็บไซต์ หรือข้อมูลที่มาจากโซเชียลมีเดีย เพื่อสร้างโฆษณาที่เกี่ยวข้องและน่าสนใจตามความสนใจและความต้องการของลูกค้า

  4. โฆษณาที่อัตโนมัติบนโซเชียลมีเดีย (Automated Social Media Advertising): บริษัท ABC ที่ขายสินค้าสำหรับสุขภาพใช้การโฆษณาที่อัตโนมัติบนโซเชียลมีเดีย เช่น การใช้โฆษณาบน Facebook หรือ Instagram ที่ใช้ระบบโครงสร้างเป้าหมายกลุ่มลูกค้า ซึ่งจะถูกแสดงให้กับกลุ่มลูกค้าที่มีความสนใจและเกี่ยวข้องกับสินค้า

  5. โปรโมชั่นส่วนลดแบบบุคคล (Personalized Discount): บริษัท XYZ ที่ขายสินค้าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ใช้โปรโมชั่นส่วนลดแบบบุคคล โดยให้ส่วนลดตามความต้องการและความสนใจของลูกค้า อาจเป็นการให้ส่วนลดในสินค้าที่ลูกค้าสนใจ หรือส่วนลดเมื่อซื้อครบจำนวนที่กำหนด ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าได้รับสิ่งที่ต้องการและเป็นสิ่งที่น่าสนใจมากขึ้น ทำให้เกิดความพึงพอใจและเสียงกลับมาอย่างบวกต่อกลุ่มลูกค้า




留言


ติดตามข่าวสารและอัปเดตจาก dots.

Thanks for subscribing.

bottom of page