top of page

Customer Lifetime Value (CLV) คืออะไร ? (ฉบับเข้าใจง่าย)



ในโลกธุรกิจและการตลาดที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง, การเข้าใจค่าของ Customer Lifetime Value (CLV) นั้นสำคัญมากสำหรับความสำเร็จในระยะยาว CLV ช่วยให้ธุรกิจเข้าใจถึงค่าที่ลูกค้านำมาซึ่งเกิดขึ้นตลอดระยะเวลาที่มีความสัมพันธ์กับบริษัท บทความนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อทำให้ CLV เป็นเรื่องที่เข้าใจง่ายขึ้น โดยอธิบายถึงความสำคัญและวิธีการคำนวณ ซึ่งจะเป็นพื้นฐานที่แข็งแกร่งสำหรับผู้ที่เริ่มต้นเรียนรู้ความคิดนี้


CLV คืออะไร ?

Customer Lifetime Value (CLV) เป็นตัวชี้วัดที่แสดงถึงจำนวนเงินทั้งหมดที่ลูกค้าคาดว่าจะใช้จ่ายในธุรกิจของคุณหรือกับผลิตภัณฑ์ของคุณในช่วงชีวิตของพวกเขา มันเป็นตัวชี้วัดทางธุรกิจที่สำคัญซึ่งช่วยในการตัดสินใจที่มีข้อมูลเกี่ยวกับการใช้จ่ายด้านการตลาด การคาดการณ์ยอดขาย และการบริการลูกค้า


ความสำคัญของ CLV

การเข้าใจ CLV มีความสำคัญสำหรับธุรกิจเพราะช่วยใน:

  • การระบุกลุ่มลูกค้าที่ทำกำไรได้มากที่สุด: ไม่ใช่ลูกค้าทุกคนที่มีกำไรเท่ากัน CLV ช่วยให้สามารถโฟกัสไปที่ลูกค้าที่มีค่ามากที่สุด

  • การนำทางกลยุทธ์ในการได้มาและรักษาลูกค้า: การรู้ CLV ช่วยในการกำหนดว่าควรลงทุนเท่าไหร่ในการได้มาซึ่งลูกค้าใหม่และรักษาลูกค้าเดิม

  • การปรับใช้งบประมาณการตลาด: ช่วยในการจัดสรรทรัพยากรการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้ได้ผลตอบแทนสูงสุด

  • การเพิ่มประสบการณ์ลูกค้า: ด้วยการเข้าใจค่าของลูกค้า, ธุรกิจสามารถปรับบริการของตนเองเพื่อเพิ่มความพึงพอใจและความภักดีของลูกค้า

การคำนวณ CLV

  1. สูตรพื้นฐาน: วิธีที่ง่ายที่สุดในการคำนวณ CLV คือ: CLV=ค่าซื้อเฉลี่ย×จำนวนการทำธุรกรรม×อายุการใช้งานของลูกค้าเฉลี่ย สูตรนี้ให้ความเข้าใจพื้นฐานของ CLV แต่อาจไม่รวมถึงตัวแปรทั้งหมด เช่น ค่าใช้จ่ายด้านการตลาดหรือค่าใช้จ่ายในการได้มาซึ่งลูกค้า

  2. การคำนวณขั้นสูง: วิธีการที่ซับซ้อนกว่านี้จะคำนภาพถึงปัจจัยต่างๆ เช่น อัตราส่วนลด (สำหรับค่าเงินตามเวลา), กำไรขั้นต้น อัตราการรักษาลูกค้า และค่าใช้จ่ายในการได้มาซึ่งลูกค้า วิธีเหล่านี้ให้ความเข้าใจที่แม่นยำและลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับ CLV

การนำ CLV ไปใช้ในกลยุทธ์ธุรกิจ

  1. การเก็บข้อมูลและการวิเคราะห์: การคำนวณ CLV อย่างแม่นยำต้องการข้อมูลที่ดี จำเป็นต้องเก็บข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการซื้อของลูกค้า ปฏิสัมพันธ์ และข้อเสนอแนะจากลูกค้า.

  2. การแบ่งกลุ่มและการเลือกเป้าหมาย: ใช้ CLV เพื่อแบ่งกลุ่มลูกค้าตามค่าของพวกเขาและพัฒนากลยุทธ์การตลาดที่เจาะจงสำหรับแต่ละกลุ่ม

  3. ความพยายามในการรักษาลูกค้า: โฟกัสไปที่การรักษาลูกค้าที่มี CLV สูงด้วยโปรแกรมรักษาลูกค้า การสื่อสารแบบส่วนตัว และการบริการลูกค้าที่ยอดเยี่ยม

  4. การจัดสรรทรัพยากร: จัดสรรทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยโฟกัสไปที่กลุ่มลูกค้าที่มี CLV สูงและช่องทางการตลาดที่ให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุด

Customer Lifetime Value ไม่เพียงแต่เป็นเพียงตัวเลข มันเป็นเครื่องมือทรงพลังที่สามารถเปลี่ยนแปลงวิธีที่ธุรกิจเข้าหาลูกค้าของตน การเข้าใจและใช้ CLV ช่วยให้ธุรกิจสามารถตัดสินใจได้อย่างฉลาดในด้านการตลาด การบริการลูกค้า และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ สำหรับผู้เริ่มต้นแล้ว การเริ่มต้นด้วยการคำนวณพื้นฐานและค่อยๆ รวมปัจจัยที่ซับซ้อนมากขึ้นเป็นวิธีที่ปฏิบัติได้ในการทำความเข้าใจ CLV เมื่อคุณเริ่มรู้สึกสบายใจกับแนวคิดนี้มากขึ้น การรวม CLV เข้ากับกลยุทธ์ธุรกิจของคุณสามารถนำไปสู่การปฏิบัติทางธุรกิจที่ทำกำไรและยั่งยืนมากขึ้น




ติดตามข่าวสารและอัปเดตจาก dots.

Thanks for subscribing.

bottom of page