top of page

สัญญาณที่บอกว่าเรากำลัง “ทำงานหนัก” แต่ไม่ได้ทำงานแบบมีกลยุทธ์

ree

ในหลายองค์กร ทีมงานทำงานแทบไม่มีวันหยุด ปฏิทินเต็มไปด้วยโปรเจกต์ แคมเปญ และการประชุม แต่เมื่อเวลาผ่านไป กลับรู้สึกว่าองค์กร “ไม่ขยับไปไหน” อย่างมีนัยสำคัญ

นี่ไม่ใช่ปัญหาความขยัน แต่เป็นสัญญาณของการทำงานเชิง Tactical มากกว่า Strategic


การทำงานเชิงกลยุทธ์ ไม่ได้วัดจากจำนวนกิจกรรม แต่จาก “ชุดของการเลือก” (choices) ที่ชัดเจน ว่าเราจะชนะที่ไหน อย่างไร และจะไม่ทำอะไรบ้างในระยะยาวเมื่อองค์กรขาดชุดการเลือกนี้ งานจำนวนมากจะกลายเป็นเพียงการตอบสนองระยะสั้น


1. ยุ่งตลอดเวลา แต่ความคืบหน้าที่แท้จริงไม่เกิด

หนึ่งในสัญญาณที่พบได้บ่อยที่สุด คือทีม “เต็ม capacity” ตลอดปี ทุกไตรมาสมีงานใหม่เพิ่มขึ้น แต่ตำแหน่งทางการแข่งขัน ความสามารถหลัก หรือโครงสร้างกำไรของธุรกิจกลับไม่ดีขึ้นอย่างเป็นระบบ


ถ้าถามว่า “สิ่งที่เราทำทั้งหมดในปีนี้ ทำให้เราแข็งแรงกว่าเดิมอย่างไรในเชิงโครงสร้าง?” แล้วคำตอบยังคลุมเครือ นั่นคือสัญญาณเตือนสำคัญ


2. คุยเรื่อง “ทำอย่างไร” ก่อนจะชัดว่า “ทำไปเพื่ออะไร”

หลายทีมกระโดดเข้าสู่การถกเถียงเรื่องเครื่องมือและช่องทางอย่างรวดเร็ว เช่น จะทำแคมเปญอะไร ใช้แพลตฟอร์มไหน เพิ่มงบตรงไหน


แต่ยังไม่สามารถอธิบายได้ชัดว่า

- ลูกค้าเป้าหมายหลักคือใคร

- คุณค่าที่เราแตกต่างคืออะไร

- เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ที่ต้องการสร้างคืออะไร


เมื่อ “Why” และ “What” ไม่ชัด “How” ที่เลือกมักจะเป็นเพียงกิจกรรมที่ดูสมเหตุสมผล แต่ไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อกัน


3. กลยุทธ์กลายเป็นลิสต์งานในปฏิทิน

แผนกลยุทธ์ของหลายองค์กร มีลักษณะไม่ต่างจาก To-do list ขนาดใหญ่เต็มไปด้วยโครงการและไทม์ไลน์ แต่แทบไม่มีการพูดถึง

- เราจะ ไม่ แข่งขันในเรื่องใด

- อะไรคือสิ่งที่ควรหยุดทำ แม้จะเคยทำมาตลอด

- Trade-off ที่องค์กรยอมรับคืออะไร


กลยุทธ์ที่ไม่มี “การเลือก” ก็คือแผนปฏิบัติการที่ดูดี แต่ไม่สามารถกำหนดทิศทางได้จริง


4. โฟกัสระยะสั้นมากกว่าการวางตำแหน่งระยะยาว

เมื่อ KPI ส่วนใหญ่อยู่ในระดับสัปดาห์หรือเดือน การสนทนาเรื่องตำแหน่งในตลาด 2–3 ปีข้างหน้า การสร้างขีดความสามารถใหม่ หรือการลงทุนที่ยังไม่เห็นผลทันที จะค่อย ๆ หายไปจากโต๊ะประชุม ผลลัพธ์คือองค์กรเก่งขึ้นในการ “แก้ปัญหาเฉพาะหน้า” แต่ไม่เคยมีเวลาคิดว่า ปัญหาเหล่านี้ควรถูกกำจัดตั้งแต่ต้นทางอย่างไร


5. การตัดสินใจถูกขับเคลื่อนด้วยความเร่งด่วน ไม่ใช่กรอบกลยุทธ์

เมื่อไม่มีกรอบกลยุทธ์ที่ชัดเจน คำขอจากผู้บริหาร ลูกค้า หรือวิกฤตเฉพาะหน้า จะกลายเป็นตัวกำหนดลำดับความสำคัญโดยอัตโนมัติ ซึ่งทำให้เกิดผลคือ

- ลำดับความสำคัญเปลี่ยนบ่อย

- ทีมสับสนว่าควรโฟกัสอะไร

- คำว่า “ด่วน” ชนะ “สำคัญ” เสมอ


6. ทุกคนทำงานของตัวเองได้ดี แต่ภาพรวมไม่ชัด

อีกสัญญาณหนึ่งคือ คนในองค์กรรู้ว่าตนเองต้องทำอะไร และวัดผลจาก KPI อะไร แต่ไม่สามารถอธิบายได้ว่า งานนั้นเชื่อมโยงกับ “ความได้เปรียบระยะยาว” ขององค์กรอย่างไร


เมื่อถามคนหลายทีมว่า “กลยุทธ์ขององค์กรคืออะไร?” แล้วได้คำตอบไม่เหมือนกัน นั่นสะท้อนว่ากลยุทธ์ยังไม่เคยถูกทำให้เป็นเรื่องเดียวกันของทั้งองค์กร


ลองใช้คำถามเหล่านี้เป็นกระจกสะท้อนองค์กรของคุณ

- ถ้าโปรเจกต์ทั้งหมดสำเร็จ เราจะได้ความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์อะไรที่วันนี้ยังไม่มี?

- ปีนี้ เราเลือก “ไม่ทำอะไร” อย่างชัดเจนบ้าง?

- เวลาของผู้บริหารถูกใช้ไปกับการคิดระยะยาวมากแค่ไหน เมื่อเทียบกับการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า?


ถ้าคำตอบส่วนใหญ่ยังวนอยู่กับงานระยะสั้น กิจกรรม และความเร่งด่วน องค์กรอาจไม่ได้ขาดความพยายาม แต่กำลังติดอยู่ใน Tactical Loop โดยไม่รู้ตัว

ความคิดเห็น


ติดตามข่าวสารและอัปเดตจาก dots.

Thanks for subscribing.

bottom of page