top of page

นโยบายบริษัทที่น่าสนใจเพื่อให้เกิด Work-Life Balance



เรื่องของการรักษาสมดุลระหว่างการทำงานกับชีวิตส่วนตัวถูกยกมาพูดถึงเรื่อย ๆ กับการทำงานในยุคปัจจุบันจนกลายเป็นประเด็นสำคัญในการพิจารณาเลือกที่ทำงาน หรือเป็นเหตุที่จะมีผลต่อประสิทธิภาพในการทำงาน และนั่นทำให้หลายองค์กรอาจจะต้องพิจารณานโยบายการทำงานบางอย่างเข้ามาช่วยทำให้องค์กรมีการทำงานแบบ Work-Life Balance มากขึ้น ซึ่งนโยบายดังเหล่านั้นก็ตัวอย่างเช่น


Flexible Work Hour

การทำงานโดยให้พนักงานได้เป็นกำหนดเวลาเข้าออกได้ด้วยตัวเอง ซึ่งทำให้พนักงานลดความเครียดจากตารางงานที่มีกำหนดการตายตัวเช่นเดียวกับพนักงานหลายคนที่จะมีการปรับตารางงานให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ส่วนตัวได้


Enjoy Friday

ในบางองค์กรจะให้วันศุกร์เป็นวันที่พนักงานมีสิทธิ์ที่จะเลิกได้ก่อนเวลา เพื่อให้เพิ่มเวลาพักผ่อนอีกทั้งลดความเครียดที่จะเกิดขึ้นจากความวุ่นวายซึ่งมักเกิดในวันศุกร์หลังเลิกงานเช่นการจราจร เป็นต้น


Sabbatical Program

บางองค์กรจะให้สิทธิ์กับพนักงานที่ทำงานมาระยะหนึ่งแล้วได้ทำการพักระยะยาว เช่น 3-6 เดือน หรือบางแห่งอาจจะเป็นปีเลยก็ได้เพื่อให้พนักงานได้มีการพักเป็นระยะเวลาที่พอเพียงกับการเติมพลัง ท่องเที่ยว ศึกษาหาความรู้โดยไม่ต้องพะวงกับเรื่องงานและหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ


Workload Management

การกำหนดนโยบายควบคุมปริมาณงานเป็นสิ่งที่น่าทำเช่นกันเพื่อป้องกันสถานการณ์ที่พนักงานจะได้รับภาระงานที่มากเกินไป บางองค์กรอาจจะมีการกำหนดในเชิงนโยบายว่าพนักงานจะต้องทำงานไม่เกินเท่าไร ไม่สามารถรับงานได้เกินกี่โปรเจคเพื่อให้มั่นใจว่าพนักงานจะยังอยู่ในภาวะที่สามารถทำงานได้โดยไม่มีความเครียดมากเกินไป


Employee Assistance Program

การเข้าใจภาระชีวิตของครอบครัวพนักงานและนำมาสู่การออกแบบโปรแกรมช่วยเหลือ เช่นการดูแลบุตร การดูแลบุพการี การศึกษา ฯลฯ ก็เป็นสิ่งที่องค์กรสามารถเพิ่มเข้ามาเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของพนักงานและลดความเครียดที่เกิดขึ้นจากภาระในชีวิตส่วนตัวได้ด้วยเช่นกัน


ติดตามข่าวสารและอัปเดตจาก dots.

Thanks for subscribing.

bottom of page