top of page

ทำไมวัฒธรรมองค์กรถึงเป็นเรื่องไม่จริง (ในหลายๆองค์กร)

ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมานั้น ผมมักได้ยินการพูดถึงเรื่องการสร้างวัฒนธรรมองค์กรพอสมควร ส่วนหนึ่งก็เพราะเทรนด์ธุรกิจที่พยายามหาวิธีสร้างองค์กรไปสู่อีกระดับหนึ่งซึ่งก็จะพบว่าปัญหาเรื่องของคนนั้นมีส่วนอย่างมาก และบรรดาสำนักต่าง ๆ ก็จะออกมาพูดในทางเดียวกันว่าจำเป็นจะต้องพัฒนาวัฒนธรรมองค์กรเพื่อสร้างทีมที่ยอดเยี่ยม ทำให้เกิดการขับเคลื่อนเปลี่ยนแปลงได้ตามที่ผู้บริหารบอก

นั่นยังไม่นับกับการมีวัฒนธรรมองค์กรที่ดีแล้วจะช่วยทำให้องค์กรสามารถผ่านวิกฤตไปได้

แต่เอาเข้าจริงแล้ว เราก็คงพอเห็นกันอยู่ว่าพนักงานหลาย ๆ องค์กรไม่ได้อินอะไรกับวัฒนธรรมองค์กรนัก แถมออกไปในทางที่ซุบซิบ นินทา และพูดไปในทางไม่ดีกับองค์กรเสียด้วยซ้ำ จนมันก็น่าชวนคิดไม่น้อยว่าทำไมตัววัฒนธรรมองค์กรถึงไม่ได้เป็นแบบที่มันต้องการ ผมเลยขอหยิบเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟังจากสิ่งที่ประสบมากันหน่อยนะครับ

1. วัฒนธรรมองค์กรเฟคตั้งแต่ตอนคิด

สิ่งที่เรามักจะแซวกันอย่างตลก ๆ คือหลายบริษัทว่าจ้างเอเยนซี่ราคาแพงมาช่วยกันคิดคำขวัญและสโลแกนขององค์กรว่าเป็นอย่างไร ตัวตนเป็นอย่างไร เช่นเดียวกับการจ้างที่ปรึกษามาออกแบบว่าวัฒนธรรมองค์กรควรจะมีอะไรบ้าง ซึ่งก็มักจบลงที่คำพูดสวย ๆ และคียเวิร์ดเจ๋ง ๆ เช่น มี Passion, มีความคิดสร้างสรรค์, สู้ไม่ถอย, ซึ่อตรง อะไรแบบนั้น ซึ่งคำพวกนี้ก็ประมาณว่าไปเปิดหนังสือรวมคำที่ดูบันดาลใจแล้วหยิบมาใส่ให้ดูเจ๋ง

แต่ปัญหาคือบรรดาคำและประโยคสวยหรูเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากตัวองค์กรจริง ๆ เลยแม้แต่น้อย มันไม่ได้มีความเชื่อมโยงหรืออยู่ในชีวิตจริงของการทำงาน แน่นอนว่ามันจะเป็นสิ่งที่ดูดีเมื่อผู้บริหารเอาไปพรีเซนต์และนำเสนอบนเวทีสัมมนาต่าง ๆ แต่กับพนักงานซึ่งเป็นคนที่จะทำให้เกิดวัฒนธรรมจริง ๆ นั้นก็มีแต่การมองหน้ากันแล้วแบบ “ใช่เหรอ?” ซึ่งเราก็พอดูออกว่าถ้ามันเป็นสิ่งที่ขัดกับความเป็นจริงแล้ว มันก็ไม่ต่างจากผักชีโรยหน้าที่สุดท้ายคนในองค์กรก็ไม่ได้อินอะไรกับวัฒนธรรมเหล่านั้นเลยแม้แต่น้อย

2. วัฒนธรรมไม่ใช่การบอกเล่า แต่เป็นการใช้ชีวิต

อย่างที่บอกไปในข้อแรกนั้น สิ่งที่ผมมักจะเห็นเป็นความล้มเหลวในการพูดเรื่องวัฒนธรรมองค์กร คือตัวองค์กรพยายามพูดกันว่าเราเป็นแบบนั้นแบบนี้ แต่เราแทบไม่อาจจะสัมผัสได้เลยว่าสิ่งที่ธุรกิจทำ วิถีการทำงานในองค์กร หรือประสบการณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะทั้งในและนอกองค์กรจะสะท้อนภาพนั้นออกมา มันเหมือนกับคนที่บอกว่าเราเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ แต่เรากลับไม่สัมผัสอะไรสร้างสรรค์ในชีวิตของเขาเลยแม้แต่น้อย และคนที่รับรู้เรื่องนี้ได้ดีที่สุดก็คือพนักงานเองที่ใช้เวลาครึ่งชีวิตของเขาในแต่ละวันอยู่กับองค์กร ซึ่งยิ่งถ้ามันไม่จริงเท่าไร พนักงานก็จะยิ่งไม่ได้ใส่ใจและให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมปลอม ๆ ที่เขียนขึ้นมาเท่านั้น

กรณีนี้ผมมักย้อนถามบริษัทอยู่เสมอว่าอะไรคือสิ่งที่พิสูจน์ว่าวัฒนธรรมองค์กรของคุณเป็นแบบนั้น? ถ้าคุณบอกว่าองค์กรของคุณเน้นความครีเอทีฟแล้ว อะไรคือสิ่งที่พิสูจน์เรื่องนั้น พนักงานคุณสัมผัสได้ถึงหลักฐานอันนั้นหรือเปล่า หรือเป็นสิ่งที่ผู้บริหารคิดขึ้นมาอ้างโดยที่จริง ๆ พนักงานก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นแบบนั้นจริง

3. ผู้บริหารไม่ทำตามวัฒนธรรม แต่ปล่อยให้เป็นหน้าที่พนักงาน

อันนี้ฟังดูประหลาด ๆ แต่ก็มีหลายองค์กรที่มีปรัชญาดูเจ๋ง หรือมีการแนะนำองค์กรว่ามีวัฒนธรรมน่าตื่นเต้น แต่เอาจริง ๆ แล้วตัวผู้บริหารและหัวหน้าเองเนี่ยแหละที่ไม่ได้ทำแบบนั้น เช่นบอกว่าเราเน้นการคิดสร้างสรรค์ แต่กลายเป็นผู้บริหารเอาแต่คิดในกรอบแล้วกลับมาบอกให้พนักงานพยายามสร้างสรรค์ออกมา (แล้วไปโดนตีตกในห้องประชุมซ้ำแล้วซ้ำเล่า)

กรณีนี้เป็นเรื่องที่น่าเศร้าเพราะผู้บริหารต่าง ๆ นั้นขาดความเข้าใจว่าวัฒนธรรมองค์กรเกิดขึ้นจากทุกคนในบริษัท ไม่ใช่เกิดขึ้นจากการแค่บอกเล่าหรือบอกให้ทำ หากแต่เป็นการเคลื่อนไปพร้อม ๆ กันของคนทั้งองค์กรเพื่อสร้างวัฒนธรรมร่วมกันอย่างจริง ๆ ซึ่งถ้าหากมีคนใดคนหนึ่งหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งขัดมันแล้ว ก็ย่อมทำให้วัฒนธรรมยากที่จะเกิดขึ้น

4. เลือกคนที่ไม่สอดคล้องกับวัฒนธรรมเข้ามาในองค์กร

ปัญหานี้เป็นเรื่องที่ผมเจอบ่อยแต่คนไม่ค่อยพูดถึง คือพอองค์กรก็ไม่ชัดว่าวัฒนธรรมองค์กรคืออะไร คิดอะไร มีทัศนคติอย่างไร ตอนจะรับพนักงานใหม่เข้ามาก็เลยไปโฟกัสกับความสามารถมากกว่าแนวคิดและคุณค่าของตัวพนักงาน ซึ่งผลก็คือพอพนักงานเข้ามาก็จะไม่ได้เข้ากับตัววัฒนธรรมองค์กร มีปัญหา และยิ่งถ้ามีมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็จะกลายเป็นกลุ่มก้อนที่สร้างความเพี้ยนให้กับวัฒนธรรมองค์กรใหญ่เข้าไปอีก

เรื่องนี้จะยิ่งเห็นได้ชัดมากๆ คือการรับผู้บริหารหรือหัวหน้างานใหม่เข้ามา ซึ่งถ้าคน ๆ นั้นไม่ได้มีคุณค่าร่วมกับวัฒนธรรมเดิมขององค์กรแล้ว ก็จะยิ่งไปสร้างวัฒนธรรมใหม่ กลุ่มก้อนใหม่ในองค์กร เช่นการสร้างทีม สร้างกองกำลังฐานอำนาจให้ตัวเอง ซึ่งนั่นก็จะยิ่งทำให้การสร้างวัฒนธรรมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของบริษัทยากขึ้นไปอีก

ที่ผมเล่ามานี้เป็นส่วนหนึ่งของหลาย ๆ สาเหตุที่ทำให้การสร้างวัฒนธรรมองค์กรไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด และน่าจะเป็นเครื่องเตือนใจที่ดีว่าการสร้างวัฒนธรรมองค์กรนั้นต้องมีความละเอียดรอบคอบ พิจารณาจากความเป็นจริงและใส่ใจในกระบวนการต่าง ๆ ขององค์กร ไม่ใช่โฟกัสอยู่กับการทำ Powerpoint สรุปให้ดูสวยหรูแต่ไม่ได้สะท้อนความจริงอะไรขององค์กรเลย

มิเช่นนั้นความกลวงของเรื่องวัฒนธรรมองค์กรนี้จะนำไปสู่ปัญหาขององค์กรในระยะยาวนั่นเอง

ติดตามข่าวสารและอัปเดตจาก dots.

Thanks for subscribing.

bottom of page