top of page

ความต่างระหว่าง System Thinking กับ Systematic Thinking ที่คนอาจจะสับสน

ree

เวลาพูดถึง “การคิดเชิงระบบ” (System Thinking) หลายคนมักเข้าใจว่าเป็นการคิดอย่างเป็นระบบ (Systematic Thinking) ทั้งที่จริงแล้ว ทั้งสองแนวคิดนี้ต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ — และความเข้าใจผิดเพียงเล็กน้อยนี้ อาจทำให้องค์กรใช้ “ระบบ” ผิดจุดประสงค์


System Thinking: การมองภาพรวมและความสัมพันธ์


System Thinking คือการคิดแบบมองทั้งระบบ (Holistic Thinking) ที่ไม่ได้มองแค่ชิ้นส่วนหรือขั้นตอน แต่เน้นเข้าใจ “ความสัมพันธ์ระหว่างส่วนต่าง ๆ” ในระบบเดียวกัน เช่น ในองค์กร หน่วยงานหนึ่งอาจส่งผลต่ออีกหน่วยหนึ่งโดยไม่รู้ตัว


หัวใจของการคิดแบบนี้คือ “ความเชื่อมโยง” และ “ผลสะท้อนกลับ” (Feedback Loops) ซึ่งช่วยให้เราเข้าใจว่า ปัญหาหนึ่งในองค์กรอาจไม่ใช่ปัญหาจุดเดียว แต่เป็นผลจากโครงสร้างของระบบทั้งหมด เช่น ยอดขายตกอาจไม่ใช่เพราะทีมขายไม่เก่ง แต่เพราะนโยบายรางวัลทำให้ทีมเน้นระยะสั้นมากเกินไป


System Thinking จึงเหมาะกับการวางกลยุทธ์ การเปลี่ยนแปลงองค์กร และการแก้ปัญหาซับซ้อนที่มีหลายปัจจัยเกี่ยวพันกัน


Systematic Thinking: การคิดอย่างเป็นขั้นตอนและมีระเบียบ


ในทางกลับกัน Systematic Thinking คือการคิดอย่างมีระเบียบ เป็นลำดับขั้นตอน มีการวางแผน ตรวจสอบ และปฏิบัติตามกระบวนการอย่างเคร่งครัด


มันคือ “ความเป็นระบบ” ในเชิงปฏิบัติการ ไม่ใช่เชิงมุมมอง เช่น การออกแบบกระบวนการผลิตให้ได้มาตรฐาน หรือการจัดทำ SOP เพื่อให้ทุกคนทำงานได้เหมือนกันทุกครั้ง


Systematic Thinking จึงเหมาะกับการบริหารงานประจำวัน การควบคุมคุณภาพ และการทำให้สิ่งที่ซับซ้อนกลายเป็นรูปแบบที่ทำซ้ำได้


เมื่อทั้งสองมาพบกัน


ปัญหาที่พบบ่อยคือ องค์กรพยายาม “จัดการปัญหาเชิงระบบ” ด้วย “วิธีคิดเชิงขั้นตอน” เช่น เมื่อยอดขายตก ก็รีบทำแผนการตลาดใหม่โดยไม่ย้อนกลับมามองว่าระบบรางวัลหรือวัฒนธรรมองค์กรเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาหรือไม่


ในความเป็นจริง ทั้งสองแนวคิดนี้ ควรใช้ร่วมกัน


  • ใช้ System Thinking เพื่อเข้าใจว่าระบบทั้งหมดทำงานอย่างไร

  • ใช้ Systematic Thinking เพื่อออกแบบกระบวนการที่ทำให้ระบบนั้นดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ


บทสรุปสำหรับผู้นำ


ผู้นำที่ดีต้องรู้ว่าเมื่อใดควรมอง “ภาพใหญ่” และเมื่อใดควรลงมือ “จัดการรายละเอียด” การคิดเชิงระบบช่วยให้เราเข้าใจโครงสร้างของปัญหา การคิดอย่างเป็นระบบช่วยให้เราแก้ปัญหานั้นได้จริง


และเมื่อทั้งสองถูกใช้ควบคู่กัน — นั่นคือจุดที่ “กลยุทธ์” และ “การปฏิบัติ” เชื่อมต่อกันได้อย่างแท้จริง

ความคิดเห็น


ติดตามข่าวสารและอัปเดตจาก dots.

Thanks for subscribing.

bottom of page