top of page

สิ่งที่ต้องฝึกเพื่องสร้างทักษะ Active Listening


Active Listening

การฟังอย่างใส่ใจ (Active Listening) เป็นทักษะสำคัญที่มีผลต่อทุกด้านของชีวิตไม่ว่าจะเป็นในที่ทำงาน การสื่อสารกับครอบครัว หรือการสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่น ทักษะนี้ไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับการได้ยินสิ่งที่ผู้อื่นพูด แต่ยังรวมถึงการเข้าใจ การตอบสนอง และการจดจำข้อมูลที่ได้รับ บทความนี้จะสำรวจว่าทำไมทักษะการฟังอย่างใส่ใจจึงสำคัญและวิธีการฝึกฝนทักษะนี้.


ความสำคัญของ Active Listening

การฟังอย่างใส่ใจช่วยให้เราสามารถเข้าใจข้อความที่ผู้พูดต้องการสื่อสารได้อย่างแท้จริง มันช่วยเพิ่มความสามารถในการตอบสนองอย่างเหมาะสมและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้พูด นอกจากนี้แลัว Active Listening ยังช่วยลดความเข้าใจผิดและสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรและเปิดกว้างในการสื่อสารอีกด้วย


วิธีการฝึกฝน Active Listening:

  1. ให้ความสนใจกับผู้พูดอย่างเต็มที่: เมื่อมีคนพูดกับเรานั้นควรให้ความสนใจอย่างเต็มที่และหลีกเลี่ยงการทำสิ่งอื่นๆ ที่อาจทำให้สมาธิขาด หลีกเลี่ยงการเช็คโทรศัพท์หรือคิดถึงเรื่องอื่นในขณะที่ฟัง

  2. แสดงความสนใจผ่านอวัจภาษา: ใช้ภาษากายและการตอบสนองที่เหมาะสมเพื่อแสดงว่าคุณกำลังฟังอย่างตั้งใจ การพยักหน้า การมองตา และการใช้คำพูดเช่น "ฉันเข้าใจ" หรือ "จริงเหรอ" สามารถช่วยแสดงความสนใจได้.

  3. หลีกเลี่ยงการตัดสินสิ่งที่พูด: พยายามฟังโดยไม่ตัดสินหรือสร้างความคิดเห็นล่วงหน้า ให้ความสำคัญกับการเข้าใจมุมมองของผู้พูดมากกว่าการตอบโต้หรือการแสดงความคิดเห็นของตัวเอง

  4. สรุปและยืนยัน: หลังจากผู้พูดจบ พยายามสรุปสิ่งที่ได้ยินและยืนยันความเข้าใจกับผู้พูด การทำเช่นนี้ช่วยให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจข้อความอย่างถูกต้องและแสดงถึงความเคารพต่อผู้พูด

Active Listeningเป็นทักษะที่สามารถพัฒนาได้ผ่านการฝึกฝนและความตั้งใจ การมีทักษะนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้เราเป็นผู้ฟังที่ดีขึ้นเท่านั้นแต่ยังช่วยในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี ลดความเข้าใจผิด และการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เป็นมิตรและเปิดกว้างซึ่งจะส่งผลดีต่อการทำงานนั่นเอง

ติดตามข่าวสารและอัปเดตจาก dots.

Thanks for subscribing.

bottom of page