หนึ่งในปัญหาที่ตอนนี้ถูกพูดถึงบ่อย ๆ และสะท้อนออกมาให้หลักสูตรพัฒนาผู้นำที่เป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ คือการที่คนที่รับบทบาทหน้าที่ที่สูงขึ้นั้นยังไม่มีความพร้อมกับความรับผิดชอบที่สูงขึ้น หลายครั้งที่เราจะเจอการที่องค์กรต้องมาทำเทรนนิ่งให้กับเหล่าผู้จัดการ ห้วหน้าทีม หรือแม้กระทั่งผู้บริหาร
หนึ่งในสาเหตุของปัญหานี้อาจจะมาจากการที่หลายองค์กรเลือก / ปรับคนเข้ามารับตำแหน่งหัวหน้าหรือผู้นำด้วยการมองดูประวัติการทำงาน ความสามารถและประสบการณ์ในงานนั้น ๆ เช่นเป็นคนที่ทำงานฝ่ายขายมานานก็น่าจะได้ขึ้นมาเป็นหัวหน้าทีมขาย หรือเป็นคนทำงานการตลาดที่เก่ง ก็คงจะขึ้นมาเป็นหัวหน้าทีมการตลาดได้
แต่ในความจริงแล้วเราก็จะพบว่าคนที่จะขึ้นมารับบทบาทใหม่นั้นไม่ใช่แค่ทำเรื่องเดิมได้เก่งหรือชำนาญ แต่มันคือการมีวุฒิภาวะ ความรู้ และทักษะที่พร้อมกับตำแหน่งใหม่ ซึ่งหลายครั้งมันคือการที่ต้องทักษะใหม่เช่นการบริหารบุคคล การวางแผนและจัดการโปรเจคในมุมมองของผู้จัดการ การตัดสินใจ ฯลฯ ซึ่งสิ่งเหล่านี้มักเป็นรีเควสที่เกิดขึ้นกับหลายองค์กรที่ประสบปัญหาว่าหัวหน้าทีมหรือผู้บริหารหลายคนยังไม่มีเมื่อเข้ารับตำแหน่ง แถมกลายเป็นปัญหาใหญ่จนต้องมาตามแก้ด้วยการส่งไปเทคคอร์สต่าง ๆ ซึ่งกว่าจะสามารถช่วยแก้ปัญหาได้ก็อาจจะต้องใช้เวลาอยู่ไม่น้อย เพราะกว่าจะได้ความรู้ ได้ฝึกฝนทักษะ ได้ปรับปรุงตัว กาารทำงานที่เคยมีปัญหาก็ยังต้องดำเนินต่อไปพร้อม ๆ กันจนเกิดผลกระทบที่ต้องตามแก้กันไม่น้อย
ด้วยเหตุนี้เอง สิ่งที่องค์กรควรจะเข้าใจคือการจะปรับใครขึ้นมารับตำแหน่งใด ๆ นั้นก็ควรจะพิจารณาและดูให้ดีเสียก่อนว่าคนนั้นมีทักษะที่ว่าพอหรือยัง ควรมีการทำลิสต์ว่าต้องมีทักษะอะไรพร้อมกับประเมินว่าคนดังกล่าวมีทักษะนั้นหรือไม่ หากยังไม่มีก็ควรจะพัฒนาให้มีและชำนาญเสียก่อนที่จะทำการปรับตำแหน่ง ซึ่งก็เช่นเดียวกับการรับพนักงานใหม่ที่ต้องวิเคราะห์ให้มันั่นใจว่าเขาเหล่านั้นมีทักษะเหล่านี้แล้ว
เพราะไม่อย่างนั้น มันก็ไม่ต่างจากการเอาคนไม่พร้อมมารับตำแหน่ง ซึ่งแทนที่จะได้การทำงานที่มีประสิทธิภาพ แก้ปัญหาที่องค์กรกำลังเจอกลับกลายเป็นเจอปัญหาที่หนักกว่าเดิมไปเสียอีกนั่นเอง