top of page

การคิดอย่างมีเหตุผลมีหลายโหมดกว่าที่เราคิด

ree

เรามักอธิบายการทำงานของสมองด้วยกรอบคิดง่ายๆ: สมองมีสองระบบ

System 1 คือความคิดเร็ว อัตโนมัติ อาศัยสัญชาตญาณ

System 2 คือความคิดช้า ใช้เหตุผล รอบคอบ และวิเคราะห์เชิงตรรกะ


โมเดลนี้ทรงพลังเพราะอธิบายโลกให้เข้าใจง่าย แต่ปัญหาคือ “ความง่ายเกินไป” นี่เองที่บิดเบือนวิธีที่องค์กรและผู้บริหารเข้าใจการตัดสินใจเชิงเหตุผล


งานวิจัยด้าน cognitive science ช่วงสิบปีที่ผ่านมาเริ่มชี้ชัดว่า System 2 ไม่ได้เกิดขึ้นแบบโหมดเดียว และไม่ใช่การคิดช้าแบบหนึ่งเดียวที่ทุกคนใช้งานเหมือนกัน


ในความเป็นจริง การคิดอย่างมีเหตุผล (Deliberative thinking) ประกอบด้วยหลายกระบวนการย่อยที่ต่างหน้าที่ ต่างความเข้มข้น และต่างความต้องการด้านแรงจูงใจ หากองค์กรหรือผู้บริหารเข้าใจผิดว่ามีเพียง “คิดช้า = คิดดี” ผลลัพธ์ที่ได้คือการออกแบบกระบวนการทำงานที่ฝืนธรรมชาติของสมอง โดยไม่ได้เพิ่มคุณภาพการตัดสินใจจริง


Deliberation ไม่ใช่โหมดเดียว แต่เป็น “ตระกูล” ของกระบวนการคิด

จากการศึกษาด้านการคิด ก็จะมีการแบ่งแยก Deliberation ออกเป็นหลายรูปแบบ เช่น


  1. Deliberate Thinking

คือการคิดที่ตั้งใจตรวจสอบข้อมูล ตั้งคำถาม และมุ่งหาความจริงโดยมีลักษณะสำคัญคือการ “ชะลอ” ความคิด เพื่อให้มีเวลามองทางเลือกใหม่ๆ

  1. Systematic Thinking

เป็นโหมดที่เน้นโครงสร้าง การเปรียบเทียบ การวิเคราะห์เชิงตรรกะเป็นระบบซึ่งจะพบมากในงานวางแผน กลยุทธ์ การเงิน หรือการออกแบบกระบวนการ

  1. Evaluative Reasoning

คือการคิดเพื่อประเมินหรือให้เหตุผลสนับสนุนมุมมองที่มีอยู่ ซึ่งการคิดโหมดนี้เป็น Deliberation เช่นกัน แต่ถูกใช้เพื่อ “ยืนยัน” มากกว่า “ท้าทาย”


ความสำคัญของการแยกย่อยนี้คือการบอกว่าไม่ใช่ Deliberation ทุกแบบจะนำไปสู่การตัดสินใจที่ดีขึ้น


หากเราใช้ Deliberation แบบ Evaluative Reasoning ในสถานการณ์ที่ต้องการ Deliberate Thinking ผลคือเราจะได้ “เหตุผลประกอบการเลือกที่ผิด” มากกว่าจะได้คำตอบใหม่


การคิดแบบเหตุผลต้องใช้แรงจูงใจ ไม่ใช่แค่เวลา

เมื่อวิเคราะห์ต่อไปถึงการคิดของเรานั้น ก็จะพบว่า การเข้าสู่โหมด System 2 ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเพราะเราคิดนานกว่าเดิมแต่เกิดขึ้นเพราะเรามีแรงจูงใจที่จะตั้งคำถามกับสัญชาตญาณของตัวเอง และในทางกลับกันหากแรงจูงใจไม่พอ เช่น

  • ต้องการพิสูจน์ว่าตนเองถูก

  • ถูกกดดันให้รีบสรุป

  • ไม่อยากเผชิญความไม่แน่นอน

  • มีอคติหรือความเชื่อเดิมอยู่แล้ว


การคิดนานในโหมด System 2 ก็ทำหน้าที่เพียง “หาเหตุผลสนับสนุนสิ่งที่คิดไว้แล้ว” ซึ่งนี่คือเหตุผลที่ผู้บริหารหลายคนเรียกว่า คิดนาน แต่ไม่คิดลึก


รู้จัก “หลายโหมดของ System 2” เพื่อนำไปใช้ให้ถูกบริบท

องค์กรควรออกแบบการคิดแบบเหตุผลให้เหมาะกับบริบท ไม่ใช่คิดว่า Deliberation แบบใดก็ได้ผลเหมือนกัน


บริบทที่ 1: เมื่อต้องการความคิดใหม่

ใช้ Deliberate Thinking ที่เน้นการตั้งคำถาม ความไม่แน่นอน และการมองมุมกลับ การคิดแบบนี้เหมาะกับการออกแบบผลิตภัณฑ์ กลยุทธ์ใหม่ หรือการแก้ปัญหาซับซ้อน


บริบทที่ 2: เมื่อต้องการความแม่นยำ

ใช้ Systematic thinking พร้อมกรอบวิเคราะห์ชัดเจนซึ่งเหมาะกับการประเมินความเสี่ยง การเงิน การจัดลำดับความสำคัญบน KPI


บริบทที่ 3: เมื่อต้องจัดการความขัดแย้งของมุมมอง

ต้องใช้โหมด Evaluative + Deliberate เพื่อให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่างๆ เปรียบเทียบเหตุผลได้อย่างโปร่งใส ไม่ใช่เพื่อพิสูจน์ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งว่า “ถูกกว่า”


ข้อเท็จจริงที่สำคัญที่สุดคือการคิดอย่างมีเหตุผลไม่ได้เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ และไม่ใช่โหมดเดียวที่ใช้ได้ทุกสถานการณ์ ผู้นำที่เข้าใจความซับซ้อนของ Deliberation จะสามารถ

  • ออกแบบการประชุมที่ให้คนตั้งคำถาม ไม่ใช่แค่หาข้อมูลเพิ่ม

  • ใช้เวลาอย่างคุ้มค่า: ไม่คิดนานเกินความจำเป็น แต่คิดให้ตรงโหมด

  • สร้างทีมที่หลากหลายด้าน “วิธีคิด” มากกว่าแค่หลากหลายด้านทักษะ

  • ลดความเสี่ยงจากการตัดสินใจที่ดูเป็นเหตุผล แต่มีอคติซ่อนอยู่


ท้ายที่สุด การคิดเชิงเหตุผลที่ดีไม่ใช่การชะลอความคิด แต่คือการรู้ว่าเมื่อไรควรคิดแบบไหน และแรงจูงใจใดกำลังขับเคลื่อนความคิดของเรา

 
 
 

ความคิดเห็น


ติดตามข่าวสารและอัปเดตจาก dots.

Thanks for subscribing.

bottom of page