top of page

อุปสรรคที่ทำให้ผู้จัดการหลายคนไม่สามารถเป็น “ผู้นำ” ได้จริง



ในโลกของการบริหารจัดการ องค์กรจำนวนมากยังคงสับสนระหว่าง “ผู้จัดการ” (Manager) กับ “ผู้นำ” (Leader) ทั้งที่บทบาททั้งสองมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ผู้จัดการคือผู้ที่ควบคุม ดูแล และรักษาระบบให้เดินหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนผู้นำคือผู้ที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจ พัฒนาทีม และผลักดันการเปลี่ยนแปลงเพื่ออนาคต


แม้ตำแหน่งผู้จัดการจะให้ “อำนาจ” ในการบริหาร แต่ไม่ได้การันตีว่าเขาจะสามารถเป็น “ผู้นำ” ที่แท้จริงได้ แล้วอะไรคืออุปสรรคที่ทำให้ผู้จัดการจำนวนมากไม่สามารถเปลี่ยนผ่านสู่บทบาทของผู้นำได้?


1. ยึดติดกับการควบคุมมากเกินไป

ผู้จัดการมักถูกฝึกให้เน้นกระบวนการ ควบคุม และลดความเสี่ยง ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในด้านปฏิบัติการ แต่เมื่อต้องนำทีมไปสู่เป้าหมายที่ใหญ่กว่า ผู้นำต้อง “ปล่อย” บางอย่าง และ “เปิด” พื้นที่ให้ทีมได้คิด ตัดสินใจ และเติบโต การควบคุมที่มากเกินไปจึงกลายเป็นกำแพงที่ขวางกั้นความคิดสร้างสรรค์และความกล้าในการเปลี่ยนแปลง



2. มองความสำเร็จแค่ในมิติของตัวเลข

ผู้นำที่แท้จริงไม่ได้มองเพียงแค่ตัวชี้วัดผลลัพธ์ แต่เข้าใจว่าความยั่งยืนขององค์กรขึ้นอยู่กับคน ระบบวัฒนธรรม และความเชื่อมั่นของทีม หากผู้จัดการโฟกัสแค่ยอดขาย ต้นทุน หรือ ROI โดยไม่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคนหรือสร้างความสัมพันธ์ระยะยาว พวกเขาจะไม่สามารถสร้าง “ผู้ตาม” ที่ภักดีและมีแรงจูงใจได้


3. ขาดทักษะการสื่อสารเชิงกลยุทธ์

การสื่อสารของผู้จัดการมักเน้นเรื่องงาน รายงาน และผลลัพธ์ แต่การเป็นผู้นำต้องสามารถสื่อสาร “วิสัยทัศน์” และ “เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่” ได้อย่างน่าเชื่อถือ การฟังอย่างตั้งใจ การตอบสนองอย่างชาญฉลาด และการส่งต่อพลังเชิงบวกคือหัวใจของการสื่อสารแบบผู้นำ



4. ไม่กล้าเผชิญหน้ากับความไม่แน่นอน

การเป็นผู้นำหมายถึงการต้องตัดสินใจในสถานการณ์ที่ไม่มีคำตอบชัดเจน ต้องยอมรับความเสี่ยง และกล้าลุกขึ้นยืนเมื่อล้มเหลว ผู้จัดการหลายคนเติบโตมาในระบบที่ให้รางวัลกับความถูกต้องและปลอดภัย จึงไม่พร้อมจะก้าวสู่พื้นที่ที่ไม่รู้จัก ซึ่งเป็นพื้นที่เดียวกันกับที่ผู้นำใช้เพื่อสร้างนวัตกรรม


5. ไม่สามารถสร้างแรงบันดาลใจได้

สุดท้าย แม้จะมีทักษะครบถ้วนในด้านบริหาร แต่หากไม่สามารถจุดประกายความเชื่อมั่น ความหวัง หรือเป้าหมายร่วมให้กับทีมได้ ก็ไม่อาจเป็นผู้นำที่แท้จริงได้ ผู้นำไม่ใช่แค่คนที่รู้คำตอบ แต่คือคนที่สามารถ “ชวนคนอื่นออกเดินทาง” ไปด้วยกัน


การเป็นผู้จัดการอาจมาจากตำแหน่ง แต่การเป็นผู้นำต้องมาจากการ “เลือก” และ “ฝึกฝน” ไม่มีใครเกิดมาเป็นผู้นำโดยธรรมชาติ 100% การเปลี่ยนจากผู้จัดการเป็นผู้นำจึงไม่ใช่แค่การเรียนรู้ทักษะใหม่ แต่คือการเปลี่ยนมุมมอง ความเชื่อ และพฤติกรรมอย่างลึกซึ้ง


องค์กรที่ต้องการเติบโตอย่างแท้จริง ควรเริ่มลงทุนในการพัฒนาผู้จัดการให้ “คิดแบบผู้นำ” ไม่ใช่แค่ “ทำหน้าที่บริหาร” เพราะในยุคที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ความสามารถในการนำผู้คนไปข้างหน้า คือทรัพยากรที่มีค่าที่สุดขององค์กร

Comments


ติดตามข่าวสารและอัปเดตจาก dots.

Thanks for subscribing.

bottom of page