top of page

Customer Acquisition Cost (CAC) คืออะไร ? (ฉบับเข้าใจง่าย)



ในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ การเข้าใจและจัดการกับต้นทุนในการได้มาซึ่งลูกค้า (Customer Acquisition Cost - CAC) นั้นสำคัญมากสำหรับความสำเร็จในระยะยาว CAC เป็นตัวชี้วัดประสิทธิภาพสำคัญที่ช่วยให้บริษัทสามารถประเมินความมีประสิทธิผลของกลยุทธ์ทางการตลาดและตัดสินใจอย่างมีข้อมูล บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจว่า CAC คืออะไร ทำไมมันถึงสำคัญ วิธีการคำนวณ และกลยุทธ์ในการปรับปรุงมัน


CAC คืออะไร?

ต้นทุนในการได้มาซึ่งลูกค้า (Customer Acquisition Cost) เป็นตัวชี้วัดประสิทธิภาพหลักที่วัดต้นทุนรวมในการได้มาซึ่งลูกค้าใหม่ ซึ่งรวมถึงค่าใช้จ่ายทางการตลาดและการขายทั้งหมดในช่วงเวลาหนึ่ง ประกอบด้วยค่าโฆษณา ค่าเงินเดือนของทีมการตลาดและการขาย ค่าใช้จ่ายในการผลิตวัสดุทางการตลาด และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการได้มาซึ่งลูกค้าใหม่


ทำไม CAC ถึงสำคัญ?

  1. ตัวชี้วัดสุขภาพทางการเงิน: CAC ช่วยให้ธุรกิจเข้าใจถึงความมีประสิทธิผลของกลยุทธ์ทางการตลาด โดยปกติแล้ว CAC ที่ต่ำกว่านั้นบ่งบอกถึงกลยุทธ์ในการได้มาซึ่งลูกค้าที่มีประสิทธิภาพมากกว่า ซึ่งจะนำไปสู่ผลกำไรที่สูงขึ้น

  2. การจัดสรรงบประมาณ: ด้วยการทำความเข้าใจ CAC บริษัทสามารถตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้นเกี่ยวกับการจัดสรรงบประมาณการตลาดเพื่อผลกระทบสูงสุด

  3. กลยุทธ์การกำหนดราคา: การรู้ต้นทุนในการได้มาซึ่งลูกค้าช่วยในการพัฒนากลยุทธ์การกำหนดราคาที่รับประกันว่าจะมีกำไร

  4. ความสนใจจากนักลงทุน: สำหรับบริษัทเริ่มต้นและธุรกิจที่กำลังหาการลงทุน CAC ที่ต่ำนั้นมักจะดึงดูดนักลงทุน เนื่องจากมันบ่งบอกถึงศักยภาพในการขยายตัวและความสามารถในการทำกำไร

วิธีการคำนวณ CAC

สูตรในการคำนวณ CAC คือ:

CAC= ค่าใช้จ่ายทั้งหมดทางการตลาดและการขายจำนวนลูกค้าใหม่ที่ได้มา / จำนวนลูกค้าใหม่ที่ได้มาค่าใช้จ่ายทั้งหมดทางการตลาดและการขาย​

ตัวอย่างเช่น, หากบริษัทใช้จ่ายเงิน 1,000,000 บาทสำหรับการตลาดและการขายในหนึ่งปีและได้ลูกค้าใหม่ 500 คน แล้ว CAC จะเป็น 2,000 ต่อลูกค้า


กลยุทธ์ในการทำ CAC Optimization

  1. เพิ่ม Conversion Rate: การปรับปรุงประสิทธิภาพของเว็บไซต์และกระบวนการขายสามารถนำไปสู่การได้มาซึ่งลูกค้ามากขึ้นโดยไม่ต้องเพิ่มค่าใช้จ่าย

  2. ใช้ประโยชน์ Organic Marketing: การลงทุนใน SEO และการตลาดเนื้อหาสามารถลดการพึ่งพาโฆษณาที่ต้องจ่ายเงิน ซึ่งช่วยลด CAC ในระยะยาว

  3. ปรับเปลี่ยนการเจาะกลุ่มเป้าหมาย: การเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ดีขึ้นในโฆษณาช่วยให้แน่ใจว่าความพยายามทางการตลาดของคุณกำลังเข้าถึงลูกค้าที่มีศักยภาพมากที่สุด ช่วยเพิ่มอัตราการแปลงและลด CAC

  4. การรักษาลูกค้า: การเพิ่มค่า Lifetime Value (CLV) ของลูกค้าทำให้ CAC ที่สูงขึ้นก็ยังสามารถยอมรับได้ การมุ่งเน้นไปที่การบริการลูกค้าและกลยุทธ์ในการรักษาลูกค้าสามารถช่วยทำให้ค่าใช้จ่ายในการได้มาซึ่งลูกค้าสูงขึ้นนั้นสมเหตุสมผล

  5. วิเคราะห์ข้อมูล: การทบทวนและวิเคราะห์ข้อมูลทางการตลาดอย่างสม่ำเสมอช่วยให้สามารถระบุและตัดกลยุทธ์หรือช่องทางที่ไม่มีประสิทธิผล

  6. ใช้เครื่องมืออัตโนมัติในการตลาด: เครื่องมืออัตโนมัติสามารถช่วยลดต้นทุนแรงงานที่เกี่ยวข้องกับการได้มาซึ่งลูกค้า

  7. ทดลองและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง: การทดลองกลยุทธ์การตลาดที่แตกต่างกันอย่างต่อเนื่องช่วยให้หาวิธีที่มีค่าใช้จ่ายต่ำที่สุดในการได้มาซึ่งลูกค้า


ติดตามข่าวสารและอัปเดตจาก dots.

Thanks for subscribing.

bottom of page