เวลาทำคอนเทนต์นั้น สิ่งที่ผมมักจะเจอบ่อยๆ คือคนทำคอนเทนต์นั้นมักมีปัญหาในเรื่องการรักษาสมดุลระหว่างสิ่งที่ตัวเองอยากพูดกับสิ่งที่ควรจะเป็น และปัญหานี้จะยิ่งทวีคุณเข้าไปเมื่อทำงานในแบรนด์หรือบริษัทใหญ่ๆ ซึ่งมีคนมากมายเข้ามามีส่วนร่วมในการทำคอนเทนต์ (คือคนให้คอมเมนต์นั่นแหละ)
ที่เกิดขึ้นเพราะเวลาเราทำคอนเทนต์กันนั้น หลายๆ คนจะให้บทบาทของตัวเอง โจทย์ของตัวเองมาเป็นตัวตั้งและพยายามบิดคอนเทนต์เพื่อให้ตอบสนองเงื่อนไขดังกล่าว เช่นฝ่าย Marketing ก็อาจจะบอกว่าต้องขายของนะ ต้องมีประโยคนี้นะ บางคนก็อาจจะคอมเมนต์ไปทางว่า “สีน่าจะเป็นสีนี้” “ควรเพิ่มโลโก้นี้เข้าไป” ฯลฯ และพอเราทำงานกับมากคนแล้ว ความต้องการเหล่านี้ก็จะมากขึ้นไปอีก
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดจากประสบการณ์ของผมคือเวลาทำวีดีโอคอนเทนต์นั้น เป็นเรื่องยากมากๆ ที่จะสามารถ “โดนใจ” คนตรวจงานทุกคน มันมักจะเกิดคอมเมนต์ประเภท “พี่ว่าอันนี้ขายของน้อยไป” “ตรงนี้ Message ไม่ออกนะ” “เปลี่ยนบทตรงนี้ได้ไหม พี่ว่ามันไม่เคลียร์”
เอาล่ะ มันไม่ใช่ว่าการให้คอมเมนต์จะไม่ดีหรอกนะครับ แต่เราก็ต้องยอมรับว่าไม่ใช่ทุกคอมเมนต์จะเวิร์คเสมอไป ถ้าขืนทำกันหมดก็อาจจะเละเทะเอาได้ง่ายๆ
สิ่งที่ผมมักจะเตือนคนทำงาน คนตรวจงานอยู่บ่อยๆ คือท้ายที่สุดคอนเทนต์จะดีไม่ดี ไม่ได้อยู่ที่คนทำงานบอกว่าดีไม่ดี การจะบอกว่าคอนเทนต์ดีนั้นคือคนดูและกลุ่มเป้าหมายเราให้ความเห็น หรือต้องดูว่าเมื่อกลุ่มเป้าหมายนั้นดูคอนเทนต์นั้นได้บรรลุเป้าหมายที่เราวางไว้หรือไม่
ที่พูดแบบนี้เพราะมันจะไม่เข้าท่ามากๆ ถ้าคอนเทนต์นั้นคนทำงานชอบและกลุ่มเป้าหมายไม่โดน ไม่อินเลย ซึ่งเรื่องแบบนี้มักจะเกิดขึ้นบ่อยๆ เมื่อคนทำงานเอาตัวเองเป็นที่ตั้งแทนที่จะเอาลูกค้าเป็นที่ตั้ง หลายครั้งผมเจอคนคอมเมนต์งานว่า “ไม่ชอบ” “ไม่เห็นน่าสนใจตรงไหน” ทั้งที่ตัวเองไม่ใช่ประเภทของกลุ่มเป้าหมายเลย แต่กลับกลุ่มเป้าหมายนั้นกลับมองว่าสนุก โดนใจ ชอบ (เคสที่เจอบ่อยๆ คืองานจับกลุ่มวัยรุ่นแต่คนให้คอมเมนต์คือผู้ใหญ่อายุ 50)
ความน่ากลัวของโลกคอนเทนต์วันนี้คือเรามีคู่แข่งด้านคอนเทนต์มากมาย ผู้บริโภคสามารถมองข้ามและปฏิเสธคอนเทนต์ของเราได้ทันที ต่อให้วีดีโอเราดีในช่วงแรก แต่ถ้าเมื่อไรก็ตามที่มันเริ่มน่าเบื่อ เขาก็สามารถเลื่อนไปดูเรื่องอื่นได้ทันที ไม่มีใครบังคับให้เขาดูจนจบได้ การวิเคราะห์คอนเทนต์ไม่ว่าจะเป็นภาพ บล็อก วีดีโอ ฯลฯ เลยไม่สามารถคิดประเภทจะ “ตีหัวเข้าบ้าน” กันได้อีกต่อไป
หัวใจสำคัญของการทำคอนเทนต์นั้น คือการให้ความสำคัญคนเสพคอนเทนต์เป็นหลักแล้วถอดรหัสออกมาว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้เขา “โดนใจ” กับสิ่งที่เราต้องการพูด ไม่ใช่การทำให้เรา “โดนใจ” เพราะมันขายของอย่างที่เราต้องการโดยที่มันน่าเบื่อและไม่น่าสนใจสำหรับกลุ่มเป้าหมาย
ไม่อย่างนั้นแล้ว ต่อให้จะ Boost จะซื้อ Reach อะไรก็ตาม คนก็ไม่กดอ่านและสนใจคอนเทนต์ของเราอยู่ดีนั่นแหละครับ