top of page

ทำไม Business Storytelling ถึงต้องการทักษะการคิดที่แข็งแรง

ree

ทุกวันนี้องค์กรไม่ได้ต้องการคนที่พูดเก่งขึ้นเรื่อย ๆ เท่านั้น แต่ต้องการคนที่สามารถ “เล่าเรื่องด้วยความเข้าใจ” เพื่อให้ทีมเห็นภาพร่วมกันและตัดสินใจได้ถูกต้องกว่าเดิม แม้หลายคนจะมอง Storytelling เป็นทักษะการสื่อสาร แต่ในความเป็นจริงมันพิงอยู่บน “ทักษะการคิด” มากพอ ๆ กับทักษะการพูด และนี่คือสาเหตุที่พนักงานมืออาชีพทุกระดับ—ไม่ใช่เฉพาะผู้บริหาร—จำเป็นต้องสร้างทักษะการคิดให้แข็งแรงกว่าที่เคย


เรื่องเล่าที่ดีเริ่มจากความสามารถในการคิดเชิงวิเคราะห์


เบื้องหลังเรื่องเล่าที่ฟังแล้ว “เข้าใจได้ทันที” มักเกิดจากความสามารถในการคิดวิเคราะห์ที่ดี ไม่ว่าจะเป็นการกลั่นข้อมูลจำนวนมากให้เหลือเฉพาะสิ่งที่สำคัญต่อการทำงาน หรือการแยกประเด็นหลักออกจากเสียงรบกวนที่เต็มไปด้วยอคติและความเห็นส่วนตัว ความคิดเชิงวิเคราะห์นี่เองที่ทำให้พนักงานสามารถมองเห็นความเชื่อมโยงของข้อมูล จับประเด็นที่มีน้ำหนัก และเลือกเล่าเฉพาะสิ่งที่ช่วยให้ทีมขยับไปข้างหน้าได้จริง


พูดอีกแบบ เรื่องเล่าจะดีได้ ก็ต่อเมื่อคนเล่าคิดอย่างเป็นระบบมาก่อนแล้วเท่านั้น


การย่อยเรื่องยากให้คนอื่นเข้าใจ ต้องใช้ความคิดแบบมีโครงสร้าง


หลายครั้งงานที่เราต้องสื่อสารเกี่ยวข้องกับข้อมูลตัวเลข แผนงานที่ซับซ้อน หรือปัญหาที่มีหลายชั้น หากไม่มีทักษะการคิดแบบเป็นโครงสร้าง เรื่องที่เล่าจะยุบยับไปด้วยรายละเอียดจนทำให้ผู้ฟังหลุดโฟกัสและไม่สามารถตัดสินใจได้


พนักงานที่สร้างผลลัพธ์ได้ดี มักเป็นคนที่สามารถจัดลำดับความสำคัญ สรุปแก่นของข้อมูล และแปลงข้อมูลเหล่านั้นให้เป็นภาพที่ชัดเจนสำหรับทีมได้เสมอ ความสามารถนี้ไม่ได้มาจากการพูดคล่อง แต่มาจากความคิดที่สามารถเรียบเรียงสิ่งซับซ้อนให้ “คม กระชับ และนำไปใช้ได้จริง”


Storytelling ที่ใช้ขับเคลื่อนงาน ต้องพึ่งพาการคิดเชิงกลยุทธ์


เรื่องเล่าที่ดีไม่ใช่เรื่องที่ฟังแล้วรู้สึกดี แต่คือเรื่องที่ฟังแล้ว “รู้ว่าต้องทำอะไรต่อ” เรื่องเล่าในองค์กรจึงต้องเชื่อมกับทิศทาง เป้าหมาย หรือการเปลี่ยนแปลงบางอย่างอยู่เสมอ ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องอาศัยทักษะการคิดเชิงกลยุทธ์ในการตีกรอบ


การคิดเชิงกลยุทธ์ทำให้พนักงานเห็นว่าประเด็นไหนสำคัญต่อผลลัพธ์ของทีม ประเด็นไหนเป็นเพียงเรื่องรอง และวิธีเล่าเรื่องแบบใดที่จะช่วยให้ผู้ฟังเข้าใจภาพใหญ่ได้ชัดขึ้น เมื่อกรอบความคิดชัดเจน การเล่าเรื่องก็มีแรงส่งมากขึ้น และมีพลังมากพอที่จะสร้าง alignment ในทีม


เรื่องเล่าที่ดีมาจากการคิดทบทวน ไม่ใช่ความจำ


ในหลายองค์กร เรื่องเล่าที่ทรงพลังที่สุดมักมาจากประสบการณ์จริง ทั้งความสำเร็จ ความผิดพลาด หรือเหตุการณ์ที่ทำให้เราได้เรียนรู้บางอย่าง แต่การดึงบทเรียนจากประสบการณ์ไม่ได้เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ มันต้องใช้การคิดทบทวนอย่างจริงจัง


การทบทวนทำให้เรามองเหตุการณ์หนึ่งจากหลายมุม เข้าใจบริบทของตัวเองและผู้อื่น และเห็นแก่นแท้ของสิ่งที่เกิดขึ้น การเล่าเรื่องจึงไม่ใช่เพียงการบอกว่า “เกิดอะไรขึ้น” แต่คือการบอกให้ชัดว่า “เราได้เรียนรู้อะไร” ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เรื่องเล่าในองค์กรมีความหมายและมีน้ำหนักมากขึ้น


Storytelling จึงไม่ใช่ทักษะการพูด แต่คือผลลัพธ์ของกระบวนการคิด


หากมองให้ลึกลงไป Business Storytelling คือพื้นที่ที่ทักษะการคิดหลายด้านทำงานร่วมกัน ตั้งแต่การวิเคราะห์ข้อมูล การจัดลำดับประเด็น การตีความหมาย การทบทวนประสบการณ์ ไปจนถึงการคิดเชิงกลยุทธ์ ความแข็งแรงทางความคิดเหล่านี้ประกอบกันเป็นเรื่องเล่าที่เข้าใจง่าย น่าเชื่อถือ และช่วยให้ผู้ฟังมองเห็นทางเลือกหรือการตัดสินใจที่ชัดเจนขึ้น


ไม่มีใครเล่าเรื่องธุรกิจได้ดีเพียงเพราะพูดเก่ง แต่ทุกคนสามารถเล่าเรื่องได้ดีขึ้นทันที เมื่อ “คิดเป็นระบบมากขึ้น” นั่นคือหัวใจของ Business Storytelling ในยุคที่ข้อมูลล้นมือ การคิดอย่างมีคุณภาพจึงไม่ใช่เพียงทักษะเสริม แต่เป็นรากฐานของการสื่อสารที่ทรงพลังที่สุดในที่ทำงาน

ความคิดเห็น


ติดตามข่าวสารและอัปเดตจาก dots.

Thanks for subscribing.

bottom of page