top of page

Six Thinking Hats ช่วยเพิ่ม Productivity ได้อย่างไร: เครื่องมือคิดที่ลดความวุ่นวายและเพิ่มความคมชัดให้การทำงาน

ree

ในยุคที่ประชุมหนึ่งครั้งกินเวลาเท่าโปรเจกต์หนึ่งชิ้น และการตัดสินใจสำคัญไม่เคยเกิดขึ้นเพราะเสียงที่ดังที่สุดในห้องยังคงชนะ Six Thinking Hats ของ Edward de Bono กลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่องค์กรทั่วโลกหยิบกลับมาใช้ใหม่ เพื่อ “จัดระเบียบความคิด” และ “ทำให้การร่วมงานกันเป็นงานที่คนอยากทำจริง ๆ”


แม้หลายคนจะคุ้นเคยกับโมเดลนี้ในฐานะเครื่องมือด้าน Creativity แต่ความจริงแล้ว Six Thinking Hats คือเครื่องมือเพิ่ม Productivity ระดับองค์กร เพราะมันลดความสูญเปล่าของเวลา ลดแรงเสียดทานระหว่างคน และทำให้ทุกคนคิดอย่างเป็นระบบ แทนที่จะคิดแบบสาดใส่กันโดยไร้รูปทรง


บทความนี้จะชวนมาดูอย่างเป็นระบบว่า Six Thinking Hats ทำให้เรา “ทำงานได้ดีขึ้นและเร็วขึ้น” อย่างไรบ้าง


1) เมื่อทีมเลิกเถียงกันโดยไร้ทิศ Productivity ก็เพิ่มขึ้นทันที


ปัญหาคลาสสิกในการประชุมคือคนใช้ “โหมดคิด” ที่ไม่ตรงกัน บางคนเสนอไอเดีย (Green Hat) ในขณะที่อีกคนตั้งวงวิจารณ์ (Black Hat) และอีกคนกำลังพูดจากอารมณ์ล้วน ๆ (Red Hat) การสนทนาจึงกลายเป็นความวุ่นวายที่ไม่มีจุดลงจอด


Six Thinking Hats แก้ปัญหานี้ด้วยการกำหนด “โหมดความคิดร่วมกันในแต่ละช่วงเวลา” ทุกคนสวมหมวกใบเดียวกันจึงคิดไปในทิศทางเดียวกัน ทำให้ลดการขัดแย้งแบบไร้สาระ และพลังงานทั้งหมดถูกใช้ไปกับโจทย์เดียวกันอย่างมีประสิทธิภาพ


ผลลัพธ์คือประชุมสั้นลง พูดกันตรงประเด็นขึ้น และไม่เสียเวลาไปกับอีโก้หรือการปะทะที่ไม่จำเป็น


2) การแบ่งโหมดคิดทำให้การตัดสินใจคมขึ้นและรอบด้านกว่าเดิม


หนึ่งในสาเหตุที่การตัดสินใจทำได้ช้า คือเรามัก “คิดหลายอย่างพร้อมกัน” จนความชัดเจนหายไป เช่นยังห่วงความเสี่ยง แต่ก็อยากหาโอกาส แต่ก็กลัวความไม่แน่นอน แต่ก็อยากตัดสินใจเร็ว


ระบบหมวก 6 ใบแยกโหมดคิดให้ชัดเจน ทำให้เราสามารถ:


  • มองข้อมูลอย่างเป็นกลาง (White Hat)

  • เข้าใจความรู้สึกและแรงต้านจริงของผู้คน (Red Hat)

  • ประเมินความเสี่ยง (Black Hat)

  • เปิดภาพของโอกาสและประโยชน์ (Yellow Hat)

  • สร้างแนวทางใหม่หรือทางลัด (Green Hat)

  • คุมโฟลว์ทั้งหมดให้เป็นระบบ (Blue Hat)



ผลคือทีมได้ “มุมมองครบทุกด้าน” โดยไม่สับสน และไม่ข้ามขั้น ซึ่งมักนำไปสู่การตัดสินใจที่เร็วขึ้นแม่นยำขึ้นและมีคุณภาพกว่าเดิม


3) กระตุ้น Creativity แบบมีกรอบ ลดความฟุ้ง—เพิ่มความเป็นไปได้จริง


ในหลายองค์กรการ “ให้คิดสร้างสรรค์” มักกลายเป็นการคิดแบบไร้ข้อจำกัดที่ดูไม่นำไปปฏิบัติจริง สิ่งที่ Six Thinking Hats ทำได้ดีคือการให้พื้นที่กับการคิดเชิงความคิดสร้างสรรค์ แต่ในจังหวะที่เหมาะสม


ช่วง Green Hat คือพื้นที่ปลอดภัยสำหรับการทดลองไอเดีย ทั้งความบ้า ความใหม่ ความไม่คุ้นชิน โดยที่รู้ว่ามี Black Hat คอยกลับมาตรวจสอบความเสี่ยงและความเป็นไปได้อีกทีหลังจากนั้น


นี่คือ Creativity ที่ “ใช้งานได้จริง” และไม่ทำให้ทีมหลงออกทะเล


4) ให้เสียงของทุกคนในทีม “ถูกใช้ประโยชน์” อย่างเท่าเทียม

การประชุมทั่วไปมักถูกยึดครองโดยคนไม่กี่คน—มักเป็นคนที่เสียงดังกว่า เร็วกว่า หรือมั่นใจกว่า แต่ Six Thinking Hats สร้างโครงสร้างบทสนทนาที่เปิดพื้นที่ให้ทุกคนมีส่วนร่วม เพราะแต่ละหมวก “กำหนดบทบาทให้ชัดเจน” ทำให้คนเงียบ ๆ ก็สามารถแสดงความคิดเห็นได้ในโหมดที่ถนัด


สิ่งนี้เพิ่มคุณภาพของข้อมูล ลด Blind Spot ของทีม และทำให้การตัดสินใจครอบคลุมขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ


5) Productivity เพิ่มขึ้นเพราะ “ความคิดชัด ระบบชัด และเวลาถูกใช้คุ้มกว่าเดิม”


เมื่อทุกคนคิดคนละเรื่อง การประชุมย่อมเสียเวลา เมื่อทุกคนคิดเรื่องเดียวกันด้วยระบบเดียวกัน ระยะเวลาที่ต้องใช้ย่อมลดลงโดยอัตโนมัติ


องค์กรที่ใช้ Six Thinking Hats อย่างต่อเนื่องมักพบว่า:


  • เวลาประชุมลดลงแบบชัดเจน

  • จำนวนรอบของการตัดสินใจลดลง

  • ความเหนื่อยล้าจากการคิดซ้ำ ๆ ลดลง

  • คุณภาพไอเดียและคุณภาพงานดีขึ้นอย่างเป็นระบบ


เพราะ Productivity ไม่ได้เกิดจากการเร่งทำงาน แต่เกิดจากการจัดระเบียบวิธีคิดของทีมทั้งทีม


บทสรุป: การเพิ่ม Productivity คือการจัดระบบความคิด ไม่ใช่แค่การจัดระบบงาน


Six Thinking Hats คือเครื่องมือที่ช่วยให้ทีม “คิดอย่างมืออาชีพ” มากขึ้น ไม่ใช่เพราะมันซับซ้อน แต่เพราะมันทำให้ทุกคนคิดอย่างมีโครงสร้าง มีระเบียบ และไม่ใช้เวลาสิ้นเปลืองไปกับความวุ่นวายที่ไม่จำเป็น


ในโลกที่ความเร็วคือข้อได้เปรียบ และคุณภาพของการตัดสินใจคือความอยู่รอด การมีระบบคิดร่วมที่ชัดเจนคือทุนสำคัญที่องค์กรยุคใหม่ไม่ควรมองข้าม


หาก Productivity คือสิ่งที่องค์กรต้องการ Six Thinking Hats อาจเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ให้ผลลัพธ์เร็วที่สุดและใช้งานได้จริงที่สุด

ความคิดเห็น


ติดตามข่าวสารและอัปเดตจาก dots.

Thanks for subscribing.

bottom of page