เลือก Social Listening Tools อย่างไรดีให้เหมาะกับการตลาดของคุณ

Social Listening เป็นเครื่องมือที่นักการตลาดดิจิทัลยุคปัจจุบันให้ความสำคัญพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นการตรวจดูว่ามีใครพูดถึงแบรนด์เราอย่างไร การสอดส่องดูความผิดปรกติต่าง ๆ รวมทั้งการพูดถึงคู่แข่งที่เราอาจจะต้องการเฝ้าติดตามดู

คำถามที่อาจจะตามมาคือในบรรดาเครื่องมือที่มีอยู่หลายเจ้าในตลาดนั้น เราควรเลือกกันอย่างไรดี ? เพราะเอาเข้าจริง ๆ จะบอกว่าเจ้าไหนดีสุดก็คงจะตอบยาก และแม้ว่าบางรายอาจจะมีฟีเจอร์ชั้นยอดแต่ถ้าเราไม่ได้ใช้งานก็อาจจะกลายเป็นของเกินจำเป็นเอาเสียต่างหาก

ด้วยเหตุนี้ถ้า ถ้าเราจะวางกรอบการคิดพิจารณาว่าควรเลือกใช้บริการ Social Listening อะไรนั้นก็ควรจะพิจารณาตามเงื่อนไขด้านล่างนี้

1. การกำหนดเป้าหมายในการตลาด

สิ่งสำคัญแรก ๆ คือการกำหนด "โจทย์" ของการตลาดที่เราต้องการบรรลุและใช้ Social Listening เข้ามาแก้ปัญหาเสียก่อน เพราะโจทย์ที่ว่านั้นมีหลายอย่าง เช่น

💡วิเคราะห์ความคิดเห็นของลูกค้า: เข้าใจว่าลูกค้าพูดถึงแบรนด์ สินค้า หรือบริการของคุณอย่างไร

💡ติดตามเทรนด์: ค้นหาเทรนด์ใหม่ ๆ ในตลาด และความต้องการของลูกค้า

💡วิเคราะห์คู่แข่ง: เปรียบเทียบแบรนด์ของคุณกับคู่แข่ง

💡วัดผลแคมเปญ: ตรวจสอบประสิทธิภาพของแคมเปญการตลาด

💡ค้นหาโอกาสทางธุรกิจ: ค้นหาโอกาสใหม่ ๆ ในการขยายธุรกิจ

ซึ่งแบรนด์เอาก็ต้องชัดเจนด้วยว่าโจทย์ไหนสำคัญที่สุด โจทย์ไหนเป็นโจทย์หลัก-รอง เพราะจะนำไปสู่การพิจารณาฟีเจอร์ว่าสามารถตอบโจทย์ได้ดีขนาดไหนนั่นเอง

2. ฟังก์ชั่นการทำงาน

เมื่อเราเข้าใจโจทย์ในการใช้ Social Listening แล้ว สิ่งที่ตามมาคือการพิจารณาดูฟีเจอร์หลักของ Social Listening ควบคู่ไปกับฟีเจอร์ที่รองรับโจทย์ที่เราตั้งแต่ต้น โดยฟีเจอร์หลัก ๆ ที่เรามักจะให้ความสำคัญ เช่น

📍ความสามารถในการดึงข้อมูล: ตัวเครื่องมือดึงข้อมูลจากแพลตฟอร์มไหน ได้เยอะขนาดไหน ได้เร็วขนาดไหน

📍ความสามารถในการวิเคราะห์: ตัวเครื่องมือมีฟังก์ชั่นในการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างไร เช่นวิเคราะห์เทรนด์ วิเคราะห์ความคิดเห็น

📍ระบบการรายงาน: ตัวเครื่องมือนำเสนอข้อมูลออกมาในรูปแบบไหน สามารถง่ายต่อการเข้าใจหรือนำไปใช้งานต่อได้หรือไม

นอกจากนั้นยังมีฟังก์ชั่นเฉพาะงานสำหรับการใช้งานปลีกย่อยเช่นระบบแจ้งเตือน ระบบมอบหมายงาน การทำงานร่วมกัน ฯลฯ

3. ความง่ายต่อการใช้งาน

สิ่งสำคัญที่เราต้องคำนึงอยู่เสมอคือแม้ว่าเครื่องมือจะมีศักยภาพมาก แต่ถ้าทีมงานไม่สามารถใช้งานได้ก็คงจะไม่ดีแน่ การดูความยากง่ายในการใช้งาน การให้ความช่วยเหลือเพื่อทำการติดตั้งหรือปรับแต่งจึงเป็นอีกหัวข้อที่ไม่ควรมองข้าม

ที่กล่าวมานี้คือหลักการเบื้องต้นเพื่อช่วยทำให้นักการตลาดพิจารณาเลือก Social Listening ที่เหมาะสมกับตัวเอง ทั้งนี้ก็ต้องย้ำกันก่อนว่าสุดท้ายแล้วนักการตลาดต้องเคลียร์ในโจทย์ของตัวเองว่าจะนำ Social Listening มาเพื่อใช้ทำอะไร แก้ปัญหาอะไร มากกว่าจะเอาเครื่องมือที่มีฟีเจอร์เทพ ๆ แต่ไม่ได้นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์นั่นเอง