คงไม่อาจปฏิเสธได้ว่า Video Marketing นั้นขึ้นมาเป็นหนึ่งในกิจกรรมการตลาดหลักในปัจจุบันหลังจากที่ผู้บริโภคคุ้นเคยและเข้าถึงแพลตฟอร์มวีดีโอออนไลน์ได้่อย่างง่ายดาย เช่นเดียวกับการสร้างสรรค์คอนเทนต์มหาศาลที่เกิดขึ้นในทุกนาทีจากครีเอเตอร์ทั่วโลก นั่นทำให้เราอาจจะต้องคิดพิจารณากันอย่างต่อเนื่องว่ากระแสของ Video Marketing จะเป็นอย่างไรต่อจากนี้
ในงาน YouTube Works ของ Google ประเทศไทยนั้นก็ได้่มีการอัปเดตข้อมูลน่าสนใจ รวมทั้งพฤติกรรมการใช้งาน YouTube ของคนไทยในปัจจุบัน ซึ่งหากเรานำเรื่องราวต่าง ๆ มาเชื่อมโยง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเทคโนโลยี คอนเทนต์ และรูปแบบพฤติกรรมการดูคอนเทนต์แล้วนั้น เราก็น่าจะพอมองเห็นทิศทางบางอย่างที่น่าสนใจ และนักการตลาดต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับ Video Marketing ในปีหน้ากัน
การเข้ามาของ AI กับการสร้างคอนเทนต์และโฆษณา
เทคโนโลยี AI จะมีส่วนเข้ามาช่วยในการพัฒนาคอนเทนต์ ไม่ว่าจะเป็นฝั่งครีเอเตอร์ที่สามารถสร้างสรรค์คอนเทนต์ได้ง่ายขึ้น หรือจะมองในฝั่งแบรนด์ที่สามารถช่วยในเรื่องการลงโฆษณาได้แม่นยำมากขึ้น ตรงนี้เองที่นักการตลาดคงต้องมองทั้งสองขาว่าตัวแพลตฟอร์มเองจะช่วยทำให้เราสเกลการทำคอนเทนต์ได้ดีขึ้นมากกว่าเดิมอย่างไร เช่นการทำคอนเทนต์หลายภาษาเพื่อรองรับกลุ่มเป้าหมายในต่างประเทศได้ง่ายกว่าเดิม หรือการนำฟีเจอร์การลงโฆษณาใหม่ไปใช้เพิ่มประสิทธิภาพของการยิงโฆษณาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
การใช้ Video ในทุกรูปแบบ
สถิติที่น่าสนใจคือมีคนไทยเพียง 20% เท่านั้นที่มีการดูคอนเทนต์ในรูปแบบเดียว นั่นหมายความว่าแม้จะเป็นข้อมูลชิ้นเดียว แต่นักการตลาดก็ต้องประยุกต์ในการทำคอนเทนต์ให้ออกมาใน Format ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Short Video / Long Video รวมถึงอาจจะต้องการใช้ Live Streaming เข้ามาด้วย ซึ่งเราคงไม่อาจจะบอกได้ว่า Format ไหนดีที่สุด แต่มันจะพาเราไปสู่จุดที่ว่าแบรนด์ต้องสเกลและหาวิธีบริหารทุก Format นี้ไปด้วยกับผ่าน Channel ของตัวเองเหมือนกับที่ครีเอเตอร์หลายคนทำ
การเฟ้นหาและทำงานกับครีเอเตอร์ที่มากกว่ายอด Sub ยอด View
การใช้มาตรวัดสื่อแบบเดิมนั้นกำลังจะถูกลดบทบาทลงเรื่อย ๆ เช่นเดียวกับผลสำรวจที่ออกมาในทิศทางที่สนับสนุนแนวโน้มพฤติกรรมการเสพคอนเทนต์ออนไลน์ที่คนเริ่มกังวลเรื่องความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ เช่นเดียวกับความโปร่งใสของตัวครีเอเตอร์ที่ตัวเองติดตามผลงานอยู่ นั่นทำให้วิธีคิดการทำ Video Marketing ผ่าน Influencer / Creator แบบเดิม ๆ อาจจะต้องปรับเปลี่ยนและอัปเดตตามเพื่อมองหาบรรดาครีเอเตอร์ที่มีความเชื่อมโยงกับแคมเปญ สร้างคอนเทนต์ที่น่าสนใจ และยังมีความน่าเชื่อถือด้วย
Direct Performance Video Marketing
ด้วยการวัดผลที่แม่นยำกว่าเดิม ประกอบกับรูปแบบการลงสื่อที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นจากแพลตฟอร์มเช่น YouTube นั้น น่าจะทำให้หลายแบรนด์เริ่มพิจารณาการใช้ Video Marketing แบบที่ให้เกิด Direct Performance กับธุรกิจเลย ไม่ใช่แค่การทำคอนเทนต์เพื่อจุดพลุให้กับแคมเปญหรือใช้สร้างกระแสเหมือนกับที่เราคุ้นเคยแบบแต่ก่อน แน่นอนว่าการทำคอนเทนต์แบบ Storytelling / Viral Video ก็คงยังมีอยู่ แต่เราน่าจะเห็นการพยายามเพิ่มมิติของการเป็น Performancfe Marketing มากขึ้นจากแพลตฟอร์มวีดีโอ
ที่หยิบมาเล่าสู่กันฟังนี้เป็นส่วนหนึ่งที่เราอาจจะวิเคราะห์กันได้แบบเร็ว ๆ จากข้อมูลที่มีการอัปเดตใน YouTube Works ปีนี้ แล้วก็คงต้องติดตามกันว่าปีหน้าจะมีอะไรน่าสนใจเหมือนดังที่วิเคราะห์กันไปหรือไม่