top of page

8 ปัญหาใหญ่ๆ ของเว็บไซต์ธุรกิจที่ทำลายโอกาสของคุณไม่รู้ตัว

ในทุกวันนี้นั้น การเปิดเว็บไซต์ต่างๆ ดูจะเป็นเรื่องง่ายเอามากๆ ใช้ต้นทุนไม่เยอะสำหรับการจดโดเมนและการเช่าโฮสต์ติ้ง เลยทำให้ธุรกิจมากมายพากันเปิดเว็บไซต์ของตัวเองเพื่อเป็นเหมือนหน้าบ้านบนโลกออนไลน์ให้คนสามารถ Search หาข้อมูลและเข้ามาดูรายละเอียดได้

อันที่จริงแล้ว เราก็ต้องยอมรับว่ายุคนี้นั้น การดูเว็บไซต์ของธุรกิจเองก็มีผลต่อการตัดสินใจในการเลือกใช้บริการอยู่ไม่น้อย ผมเองตอนที่เปิด DOTS Consultancy เองก็ต้องเลือกหาแบบของเว็บที่ดูดีในระดับหนึ่ง (เท่าที่ความสามารถจะทำได้) เพราะเชื่อว่าหลายๆ คนเองก็ใช้ First Impression ของการเห็นเว็บไซต์ธุรกิจในการชั่งใจว่าจะดูรายละเอียดเพิ่มเติมต่อหรือไม่ด้วย

เพื่อขยายความดังกล่าว MyCase เลยทำ Infographic สรุปปัญหาและความผิดพลาดที่มักเกิดขึ้นกับเว็บไซต์ธุรกิจขนาดเล็กจนทำให้พวกเขาพลาดโอกาสทางธุรกิจไปอย่างน่าเสียดาย มีอะไรบ้างนั้น ลองมาดูกันดีกว่าครับ

1. ไม่มี Call To Action

การทำ Call To Action เป็นเสมือนสูตรสำเร็จที่ต้องแทรกอยู่ในเว็บเพื่อให้คนที่กำลังอ่านข้อมูลได้รู้ว่าต้องทำอะไรต่อ เช่นต้องติดต่อที่ไหน ต้องทำอย่างไรเพื่อจะใช้บริการ ฯลฯ แต่ที่น่าตกใจคือมีเว็บไซต์ของธุรกิจขนาดเล็กกว่า 93% ไม่มีข้อมูลว่าต้องติดต่อที่ไหน (ฟังเหมือนเรื่องตลก แต่หลายเว็บเองก็หาเบอร์ติดต่อหรืออีเมล์ได้ยากเสียยิ่งกว่าว่าบริษัททำอะไรเสียอีก)

2. ดีไซน์แย่

คงไม่อาจปฏิเสธได้ว่าดีไซน์คือภาพลักษณ์ที่คนเข้าเว็บจะพิจารณาเป็นลำดับแรกๆ แต่ดูเหมือนว่าเว็บไซต์ของธุรกิจจำนวนมากจะไม่ได้อัพเดทหรือปรับเปลี่ยนตาม หลายบริษัทเป็นเว็บไซต์ประเภทที่ออกแบบเมื่อสัก 6 ปีที่แล้วและก็ไม่ได้อัพเดทให้ทันสมัย มันยิ่งบ่งบอกว่าบริษัทไม่ได้ก้าวไปตามยุคสมัยสักเท่าไร ส่วนหนึ่งของปัญหานี้เพราะหลายคนคิดว่าการออกแบบเว็บนั้นมีราคาแพง (สมัยก่อนการทำเว็บไซต์มีราคาสูง) อย่างไรก็ตามทุกวันนี้พวกเว็บสำเร็จรูปหรือ CMS อย่าง WordPress นั้นทำให้เว็บไซต์ต่างๆ ติดตั้งได้ง่าย ดูดี แถมมีตัวเลือกเยอะในราคาที่ถูกมากๆ (หรือฟรีเลยก็ได้) ฉะนั้นถ้าใครยังไม่ได้อัพเดทเว็บไซต์ล่ะก็ รีบปรับปรุงด่วนเลยครับ

3. ใช้เวลาในการอัพเดทนาน

หลายๆ เว็บยังเป็นระบบจัดการแบบเก่าอยู่ซึ่งทำให้การอัพเดทแต่ละครั้งไม่ง่าย ใช้เวลาเยอะ (ถ้านึกง่ายๆ คือพวกเว็บประเภทเขียนด้วย HTML / Dreamweaver) ยิ่งถ้าเจ้าของธุรกิจทำเองด้วยแล้ว ก็ยิ่งเสียเวลาในการจะสนใจเรื่องอื่นๆ อีก นั่นทำให้กลายเป็นปัญหามากของเว็บไซต์ธุรกิจหลายๆ เว็บ วิธีแก้ปัญหาที่น่าจะเห็นผลได้เร็วคือการทำเว็บไซต์ที่มีระบบจัดการหลังบ้านง่ายๆ ดูแลไม่ยาก อย่างพวก WordPress หรือเว็บไซต์สำเร็จรูปที่มีระบบจัดการข้อมูลหลังบ้านสำเร็จรูปแล้วเป็นต้น

4. ไม่รู้วิธีวัดผล

การมีเว็บไซต์ไม่ใช่เรื่องยาก แต่หลายๆ คนมีแล้วไม่รู้ว่าจะวัดผลอย่างไรต่อ ก็เลยไม่รู้ว่าที่ทำเว็บไปนั้นดีหรือไม่ดี ฉะนั้นแล้ว เจ้าของธุรกิจที่มีเว็บไซต์ควรศึกษาและหาข้อมูลด้วยว่าเว็บไซต์ของตัวเองนั้นจะวัดผลอย่างไรเพื่อจะได้รู้ว่าการลงทุนทำหน้าร้านออนไลน์ของตัวเองนั้นมีประสิทธิภาพหรือไม่ ต้องปรับปรุงอะไรหรือเปล่า ตัวอย่างการวัดผลที่ควรลองใช้เช่น Google Analytics ที่ฟรีและละเอียดมากๆ