เรื่องของความจำนั้นเป็นสิ่งที่มนุษย์เราให้ความสำคัญอย่างมาก ยิ่งกับคนทำงานด้วยแล้วถือว่าเป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้เรื่องมันสมองเลยทีเดียว (แม้มันจะไม่ค่อยถูกพูดถึงสักเท่าไรก็เถอะ) เพราะเรามักต้องใช้สมองในการจดจำหลายๆ อย่างในหลายๆ สถานการณ์ ซึ่งอาจจะเป็นวินาทีสำคัญเลยก็ว่าได้ (ผมเชื่อว่าหลายๆ คนก็เคยอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถจดบันทึกได้ แต่ข้อมูลตรงหน้านั้นสำคัญเอามากๆ) พอเป็นเช่นนี้เชื่อว่าหลายๆ คนก็คงอยากพัฒนาศักยภาพเรื่องความทรงจำของตัวเองเป็นแน่แท้
ล่าสุดผมไปอ่านบล็อกของ Inc ว่าด้วยเรื่องงานวิจัยต่างๆ ที่สนับสนุนว่าทำอย่างไรบ้างเราถึงจะมีความสามารถในการจดจำที่ดีขึ้นบ้าง ซึ่งพออ่านแล้วก็มีความน่าสนใจมากทีเดียว ผมเลยขอเอามาแปลและเรียบเรียงในบล็อกนี้แล้วกันนะครับ (บางอย่างผมไม่แน่ใจคำไทย จะขอใช้ทับศัพท์นะครับ และตัวบทความจริงจะมีรายละเอียดค่อนข้างยาว เป็นเรื่องการแพทย์พอสมควร ผมจะสรุปมาเป็นสั้นๆ นะครับ)
1. การทำสมาธิจะช่วยพัฒนา Working memory
Working memory ปรียบเสมือนกับกระดานจดโน๊ตที่ข้อมูลใหม่ๆ มักจะเข้ามาใช้พื้นที่ชั่วคราวเช่นการที่คุณได้ยินชื่อใครสักคนหรือการฟังที่อยู่หรือเส้นทางทางโทรศัพท์ ความจำส่วนนี้จะทำหน้าที่เก็บข้อมูลเหล่านั้นไว้จนคุณทำงานเหล่านั้นเสร็จซึ่งถ้ามันไม่สำคัญแล้วคุณก็จะปล่อยให้มันหายไปเว้นเสียแต่ถ้ามันสำคัญ คุณจะเปลี่ยนมันเป็นความทรงจำระยะยาวซึ่งสามารถเรียกกลับมาใช้ใหม่ได้ (นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเรื่องบางเรื่องเราจำได้ และเรื่องบางเรื่องเราจำไม่ได้)
Working memory นี้เองเป็นส่วนที่เราใช้งานแทบทุกวันซึ่งถ้าความจำส่วนนี้มีประสิทธิภาพแล้วคุณก็จะใช้ชีวิตได้ง่ายมากขึ้นทีเดียว โดยส่วนมากสำหรับผู้ใหญ่ทั่วๆ ไปแล้ว เราจะจดจำของได้ประมาณ 7 อย่างใน Working memory นี้ แต่ถ้าคุณต้องการเพิ่มปริมาณให้มากขึ้นนั้น สิ่งที่คุณจำเป็นต้องทำคือการฝึกสมาธินั่นเอง
ในการวิจัยนั้น พบว่าแม้คนที่ไม่เคยฝึกสมาธิเลยก็จะสามารถเพิ่มความสามารถในการจดจำได้ในช่วงระยะเวลาเพียง 8 อาทิตย์หลังจากเริ่มฝึกสมาธิ นอกจากนี้แล้ว การทำสมาธิยังช่วยทำให้เราสามารถพุ่งความสนใจกับสิ่งต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น เช่นเดียวกับการทำผลทดสอบต่างๆ ได้ดีขึ้น
เหตุผลที่การทำสมาธินั้นทำให้ความจำดีขึ้นก็เพราะระหว่างการทำสมาธินั้น สมองของคุณจะหยุดการประมวลผลข้อมูลต่างๆ แบบที่เคยทำในวันปรกติ นั่นไม่เพียงทำให้สมองของคุณว่างและยังทำให้ผ่อนคลายความเครียดและจดจำได้มากขึ้นด้วย
2. ดื่มกาแฟเพื่อพัฒนาการประกอบความทรงจำเข้าด้วยกัน
ในงานวิจัยชิ้นหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้พบว่าการกินคาเฟอีนเม็ดหลังจากการเรียนรู้อะไรบางอย่างนั้นจะทำให้การเรียกความจำกลับมานั้นดีขึ้น โดยในการทดสอบนั้นพบว่าผู้เข้าร่วมการทดสอบที่ได้รับคาเฟอีนไปหลังจากการจดจำชุดภาพต่างๆ นั้นสามารถทำการทดสอบภายหลังได้ดีซึ่งนักวิจัยมองว่าเป็นการจดจำที่ลึกกว่าเดิม
เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว บางทีนอกจากที่คุณจะดื่มกาแฟในช่วงเช้าแล้ว การดื่มกาแฟหลังจากที่คุณเรียนรู้อะไรมาตลอดวันก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเช่นกัน
3. การกินเบอรี่จะช่วยทำให้ความทรงจำระยะยาวดีขึ้น
การกิจผลเบอรรี่จะช่วยเรามีความสามารถในการจดจำระยะยาวดีขึ้นกว่าเดิม การศึกษาของ University of Reading และ Peninsula Medical School พบว่าคนที่ไดเอทอาหารด้วยการกิบเบอรี่เป็นระยะเวลา 12 อาทิตย์นั้นพบว่าการมีความสามารถในการใช้ความทรงจำที่ดีขึ้นกว่าเดิม