ทุกวันนี้มีคนมาปรึกษาผมค่อนข้างเยอะเรื่องการทำคอนเทนต์ ไม่ว่าจะเป็นคอนเทนต์ในส่วนของ Ad หรือการทำคอนเทนต์หล่อเลี้ยงตัว Facebook Page / Instagram / Website หรือแม้แต่ Instagram ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี
แน่นอนว่าคำถามที่มามักจะแบบกว้างๆ ว่า “ผมต้องทำคอนเทนต์อย่างไร?”
และคำตอบที่ผมมักตอบกลับไปให้เขาคิดก่อนคือ
“ตอนนี้ปัญหาอยู่ที่คุณไม่มีเรื่องที่จะเล่า หรือคุณมีปัญหาเรื่องวิธีการเล่าเรื่อง”
มันอาจจะฟังดูงงๆ เสียหน่อยแต่เอาจริงๆ เรื่องนี้อธิบายด้วยพื้นฐานการทำคอนเทนต์กันพอสมควร เพราะการทำคอนเทนต์ที่ดีนั้นเกิดจากการผสมกันของ “การหาเรื่องที่ใช่มาสื่อสาร” และ “การหาวิธีการสื่อสารที่ใช่สำหรับเรื่องนั้นๆ”
การหา “เรื่องที่ใช่” มาสื่อสาร
เรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องที่พื้นฐานสุดๆ เลย แต่เท่าที่คุยกันมาตลอดก็มักเป็นจุดที่ตกม้าตายกันง่ายๆ เพราะกลายเป็นว่าธุรกิจส่วนใหญ่มักไปเลือก “เรื่อง” ที่ไม่ใช่มาคุย เช่นบางครั้งก็เอาเรื่องที่ไม่ใช่สิ่งที่ต้องการของลูกค้ามาสื่อสาร มาพูด มานำเสนอ ซึ่งแน่นอนว่าก็ทำให้กลุ่มเป้าหมายปฏิเสธ และเลื่อนข้ามกันอย่างรวดเร็ว ในขณะที่อีกมุมหนึ่งก็คือการกลัวว่าคนจะไม่สนใจ ก็เลยไปเอาเรื่องที่คนน่าจะชอบ แล้วมาพูดเยอะๆ จนไม่ได้เกี่ยวกับธุรกิจ หาความเชื่อมโยงไม่ได้ไปเสีย
เอาจริงๆ ถ้าถามผมแล้ว เรื่องของการหา “เรื่องที่ใช่” นั้นเป็นสิ่งสำคัญมากๆ แต่ส่วนใหญ่ก็มักจะมองข้ามเรื่องนี้เพราะเป็นสิ่งที่ต้องคิดเยอะ คิดถึงลูกค้า เข้าใจลูกค้ามากๆ เช่นเดียวกับการวิเคราะห์ดูสินค้าตัวเองว่าควรนำเสนออะไรที่จะตรงจุดความต้องการของลูกค้า ซึ่งการคิดตรงนี้นั้นออกจะเหนื่อยพอสมควร และทำให้คนไปโฟกัสกับวิธีการเล่าเรื่องมากกว่า
การหา “วิธีเล่าที่ใช่” มาใช้สื่อสาร
ในอีกแกนนั้น ก็เป็นฝั่งที่เรียกว่าเทคนิค เช่นว่าจะนำเสนอในรูปแบบไหน จะเป็นภาพ เป็นอัลบั้ม เป็นวีดีโอ ฯลฯ ซึ่งตรงนี้เรียกว่าเป็นการเอาเรื่องที่มีอยู่แล้วมาทำให้น่าสนใจ ให้ดูน่าติดตาม ชวนให้มอง ซึ่งนั่นก็เลยไม่แปลกว่าฝั่งนี้จะเป็นเรื่องของการดีไซน์และฝั่งความคิดสร้างสรรค์ในการนำเสนอ
เอาจริงๆ ฝั่งนี้ก็สำคัญมากๆ ไม่แพ้กัน เพราะถ้าเรื่องมาดีแต่เล่าไม่ดี โอกาสจะเวิร์คก็ย่อมน้อย เสียโอกาสที่คนจะเห็นและสนใจคอนเทนต์ ประหนึ่งว่ามีหนังสือดีแต่หน้าปกแย่ คนก็เลยไม่ได้หยิบมาดูเช่นนั้นเอง
ด้วยเหตุนี้ ทั้งสองอย่างนี้จึงสำคัญไม่แพ้กัน คนทำงานคอนเทนต์ก็ต้องให้ความสำคัญทั้งคู่
แต่คำถามชวนคิดอย่างที่ผมบอกไปข้างต้นนั่นแหละครับ ตอนนี้ปัญหาของคุณอยู่ตรงไหน? อยู่ตรงเรื่องที่เล่ามันไม่ใช่ หรือวิธีการเล่ามันไม่ใช่กันแน่
เพราะเร