top of page

ทำไมหลายองค์กรถึงไม่สามารถแก้ปัญหา Toxic Workplace ได้



ในโลกของการทำงาน สภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีมีผลต่อสุขภาพจิตของพนักงานและประสิทธิภาพในการทำงานโดยตรง แต่ปัญหาที่พบในหลาย ๆ องค์กรคือการที่สภาพแวดล้อมการทำงานเป็นพิษ (Toxic Workplace) ไม่สามารถแก้ไขได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนพนักงานหลายคนต้องเลือกเดินออกไป ซึ่งเป็นสัญญาณว่าปัญหานี้ซับซ้อนและแก้ได้ยากกว่าที่คิด ทำไมหลายบริษัทถึงไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้? มาดูเหตุผลสำคัญที่ทำให้ปัญหานี้ยังคงอยู่ในหลายองค์กร


1. การขาดความตระหนักรู้เกี่ยวกับ Toxic Workplace

หนึ่งในสาเหตุหลักที่องค์กรไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้คือ การที่ผู้นำหรือผู้บริหารไม่ตระหนักถึงความรุนแรงของปัญหา อาจมีความเชื่อว่าเรื่องนี้เป็นเพียง "ความเครียดในงาน" ที่ทุกคนต้องเผชิญโดยธรรมชาติ การไม่ยอมรับว่าสภาพแวดล้อมนี้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตและประสิทธิภาพของพนักงาน ทำให้ปัญหาไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง


2. วัฒนธรรมองค์กรมีความ Toxic ที่หยั่งรากลึก

ในบางองค์กร วัฒนธรรมที่เป็นพิษอาจหยั่งรากมานานจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบ วัฒนธรรมเช่นนี้อาจสนับสนุนการกลั่นแกล้ง (Bullying) ความลำเอียง หรือพฤติกรรมที่ไม่เป็นธรรม เมื่อพฤติกรรมเหล่านี้กลายเป็น "เรื่องปกติ" ที่ใคร ๆ ก็ยอมรับ มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะแก้ไขให้หมดไปในระยะเวลาสั้น ๆ


3. การต่อต้านการเปลี่ยนแปลง

การเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมการทำงานที่เป็นพิษจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม แนวคิด และระบบการทำงาน แต่การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้อาจเป็นเรื่องที่ยากและทำให้เกิดการต่อต้าน ทั้งจากพนักงานที่เคยชินกับระบบเดิม หรือแม้กระทั่งผู้บริหารที่อาจกังวลว่าการเปลี่ยนแปลงจะส่งผลต่ออำนาจหรือสถานะของตนเอง


4. การขาดความเป็นผู้นำที่ดี

บางครั้งผู้นำในองค์กรก็เป็นส่วนหนึ่งของปัญหา หากผู้บริหารเองมีพฤติกรรมที่เป็นพิษ หรือขาดความสามารถในการจัดการปัญหา ก็ย่อมเป็นไปได้ยากที่องค์กรจะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ ผู้นำที่ไม่เปิดใจรับฟังหรือไม่สนับสนุนการเปลี่ยนแปลงยิ่งทำให้ปัญหายืดเยื้อ


5. การขาดทรัพยากรที่เพียงพอ

การแก้ไขสภาพแวดล้อมการทำงานที่เป็นพิษไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องการทั้งการฝึกอบรม การให้คำปรึกษา และบางครั้งก็ต้องมีการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ แต่บางองค์กรอาจไม่มีทรัพยากรเพียงพอที่จะดำเนินการแก้ไขอย่างเต็มที่ หรืออาจไม่พร้อมที่จะลงทุนในการพัฒนาเหล่านี้ เพราะมองว่าเป็นต้นทุนที่ไม่จำเป็น


6. ความกลัวต่อผลกระทบที่ตามมา

พนักงานและแม้แต่ผู้จัดการในองค์กรอาจกลัวว่าหากพูดออกมาหรือพยายามเปลี่ยนแปลงจะถูกตอบโต้ในทางลบ เช่น การถูกเลิกจ้าง หรือถูกกีดกันทางสังคมในที่ทำงาน ความกลัวเหล่านี้ทำให้หลายคนเลือกที่จะเงียบ และปัญหายังคงอยู่โดยไม่มีใครพูดถึง


7. การเน้นเป้าหมายระยะสั้นมากเกินไป

องค์กรหลายแห่งให้ความสำคัญกับเป้าหมายทางธุรกิจในระยะสั้น เช่น ผลกำไรหรือยอดขาย มากกว่าการลงทุนในระยะยาวในการพัฒนาวัฒนธรรมการทำงานที่ดี ซึ่งอาจทำให้ผู้บริหารมองข้ามปัญหาสภาพแวดล้อมที่เป็นพิษ


8. ลำดับความสำคัญที่ผิดพลาด

สำหรับบางองค์กร สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการทำงานให้เสร็จทันเวลา โดยไม่คำนึงถึงความเป็นอยู่ของพนักงาน เมื่อองค์กรเลือกที่จะมองข้ามสุขภาพจิตและสภาพแวดล้อมการทำงาน พนักงานจะต้องเผชิญกับความเครียดและความกดดันโดยไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้


9. การสื่อสารที่ไม่ดี

องค์กรที่มีระบบการสื่อสารที่ไม่ดี มักจะทำให้การแก้ไขปัญหาในองค์กรเป็นเรื่องที่ยากขึ้น พนักงานไม่สามารถสื่อสารถึงปัญหาที่เผชิญ หรือหากสื่อสารไปก็ไม่มีคนฟังหรือดำเนินการตามที่ควร ทำให้ปัญหานี้ไม่สามารถแก้ไขได้


การแก้ไขปัญหาสภาพแวดล้อมการทำงานที่เป็นพิษจำเป็นต้องมีการตระหนักรู้ในปัญหา ความตั้งใจจริงจากผู้บริหารและการจัดสรรทรัพยากรเพื่อการพัฒนา แต่หากขาดสิ่งเหล่านี้ องค์กรก็จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างแท้จริง ส่งผลให้พนักงานเลือกที่จะออกจากองค์กรเพื่อหาสภาพแวดล้อมที่ดีกว่า ปัญหาสภาพแวดล้อมการทำงานที่เป็นพิษจึงเป็นเรื่องที่องค์กรไม่ควรมองข้าม เพราะท้ายที่สุดแล้วการรักษาพนักงานที่มีคุณภาพย่อมดีกว่าการต้องหาคนใหม่มาแทนที่

Comments


ติดตามข่าวสารและอัปเดตจาก dots.

Thanks for subscribing.

bottom of page